ที่ดินเป็นท้องนาต่ำกว่าถนนประมาณ 1 เมตร ค่ะ จะถมปลูกบ้าน 200 ตารางวา และทำถนนทางเข้าด้วย จะใช้วัสดุอะไรดีคะ ระหว่างทรายขี้เป็ด ดิน ลูกรัง ราคาประมาณแต่ละชนิดเท่าใด และข้อดีข้อเสียของวัสดุแต่ละชนิด ขอบคุณค่ะ
.............................................................................................................................
1.ดินลูกรังคุณสมบัติในทางวิศวกรรมเหมาะกับการใช้งานถนนส่วนทรายขี้เป็ดเป็นทรายแม่น้ำที่มีส่วนผสมของสารอินทรีย์ ราคาถูก มีสีคลํ้าๆ ออกไปทางดำ รดนํ้าลงไปจะเห็นเศษคราบโคลนลอยแยกตัวขึ้นมา ใช้ผสมปูนในการก่อสร้างไม่ได้ ทรายขี้เป็ดระบายน้ำได้ดี และมีสารอาหารอยู่บ้างแต่ไม่เท่าดิน นิยมนำมาโรยบนหน้าดิน ก่อนทำสนามหญ้าและดินที่ใช้ถมที่โดยทั่วไปเป็นดินท้องนา แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาว่าฐานรากของบ้านท่านที่จะก่อสร้างเป็นเสาเข็มประเภทใด ถ้าเป็นเสาเข็มเจาะก็จะมีปริมาณดินที่เหลือจากการเจาะเพิ่มขึ้นอีก
2. ส่วนราคาของงานดินนั้นขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัยเช่น
2.1 ระยะทาง ระหว่างบ่อดินที่เราซื้อดินมากับสถานที่ก่อสร้าง(ราคาค่าขนส่ง)
2.2 ชนิดของดิน ดูจากความลึกของดินที่ขุดขึ้นมา หน้าดิน 0-0.50 ม.บางที่ก็ถึง1.00 ม. จะแพงที่สุด เหมาะสำหรับการปลูกต้นไม้(ดินจะมีสีดำ) ลึกกว่านี้ลงไปราคาจะถูกลง เพราะแร่ธาตุในดินจะน้อย ถมที่ดีแต่ไม่เหมาะจะปลูกต้นไม้แล้ว(ดินออกสีน้ำตาลๆ มีทรายปน) แต่ถ้าลึกลงไปมากๆ จนดินออกเป็นสีขาวๆ จะปลูกอะไรไม่ขึ้นเลย แต่นำมาใช้ถมได้ดีมาก ราคาถูกที่สุด
2.3 ลักษณะการถมดิน ถ้าใช้รถตัก-ตักดินแล้วเอามากองๆ ไว้ ดินจะดูเต็มเร็วแต่จะหลวมมาก และจะทรุดตัวในภายหลังอย่างมากด้วย ถ้าถมในลักษณะถมแล้วใช้รถบรรทุกถอยทับ ดินจะแน่นขึ้น จะได้ดินปริมาณมาก(แต่ผู้รับเหมาไม่ชอบ และดินต้องเป็นดินแห้ง) จะมีการถมลักษณะอื่นอีกหรือเปล่า แล้วแต่เทคนิคของผู้รับเหมาด้วย
2.4 การขนส่ง จะใช้รถบรรทุกเป็นส่วนมาก ความกว้างของกะบะรถ10 ล้อ ประมาณ 2.5 x 6 ม. ความสูง-ส่วนมากจะนับกันเป็น"ไม้" เช่น ไม้ 1 , ไม้ 2 อะไรทำนองนี้ "ไม้" คือ ไม้ที่เป็นซี่วางตามนอนด้านข้างกะบะ นับจากล่างขึ้นบน รถแต่ละคันความสูงจากท้องกะบะถึงซี่ไม้จะไม่เท่ากัน รถบางคันท้องลึก บางคันท้องตื้น ถ้าคิดปริมาตร 2.5 x 6 x สูงประมาณ1.20 ม. จะได้ 18 ลบ.ม. แต่ส่วนใหญ่ งานดินจะคิดค่าความโปร่งที่ 50% แสดงว่าเราได้ดินจริงๆ แค่ 9 ลบ.ม.
2.5 เวลาในการถม ก็ขึ้นอยู่กับระยะทาง ที่ดินจะเดินทางมาจากบ่อดิน และจำนวนรถที่ใช้ขนส่ง ถ้าใช้รถหลายคันวันหนึ่งก็ขนได้หลายเที่ยว(อันนี้ก็แล้วแต่ความเหมาะสม เพราะระหว่างทางผู้รับเหมาอาจต้องจ่ายค่าความสะดวกในการผ่านทางบ้าง)
2.6 ส่วนการบดอัด ก็แล้วแต่ตกลงว่าจะถมอย่างเดียวหรือบดอัดด้วย
2.7 ราคาดิน จริงๆ แล้วสามารถต่อรองกันได้ ขึ้นอยู่กับความพอใจของทั้งสองฝ่าย
3.วิธีการคิดปริมาณดินถม
3.1 เริ่มที่การคิดปริมาณดิน ก็คือ กว้างคูณยาวคูณสูง หรือพื้นที่คูณความสูงนั่นเอง ในกรณีที่พื้นที่เดิมไม่สม่ำเสมออาจจะต้องเฉลี่ยระดับ กรณีพื้นที่กว้างๆ มูลค่างานมาก ควรจะจ้างช่างสำรวจหาระดับดินในตำแหน่งต่างๆ แล้วคำณวณปริมาณดินออกมา
3.2 ราคาต่อหน่วย เมื่อทราบปริมาณดินที่ต้องการแล้วคูณด้วยราคาต่อหน่วยก็จะเป็นราคารวม ราคาต่อหน่วยนี้ต้องสูงกว่าราคาดินจากรถขนดิน เนื้องจากเวลานำดินมาบดอัดแล้วปริมาตรจะยุบตัวลงไป และผู้รับเหมาต้องบวกค่าดำเนินการ กำไรต่างๆด้วย ให้ลองตรวจสอบราคาดูกับผู้รับเหมาหลายๆราย ก็จะทำให้ท่านทราบราคากลาง
3.3 ข้อกำหนดในการทำงาน เช่นต้องลอกเลนหรือไม่(ควรจะลอก) บดอัดทุก 30 ซม หรือ 50 ซม. ซึ่งจะคุมเข้มแค่ไหนขึ้นอยู่กับจุดประสงค์การใช้งานพื้นที่ เช่นพื้นที่ถมทิ้งไว้เฉยๆ หรือใช้จัดสวน ก็ควรมีการบดอัดบ้าง แต่ถ้าเป็นถนนต้องมีการบดอัดและควบคุมคุณภาพอย่างดีไม่งั้นถนนจะแตกร้าวได้
3.4 ตอนทำงานควรไปดูบ่อยๆด้วย ผู้รับเหมาจะได้ทำตามที่ได้ตกลงกัน
3.5 ก่อนเริ่มทำการถม ควรมีการทำระดับอ้างอิงไว้เพื่อตรวจสอบ เช่นการพ่นสี ตอกตะปูกำหนดระดับไว้ตามเสาไฟฟ้า หรือสิ่งก่อสร้างข้างเคียงที่มีลักษณะถาวร ไม่เคลื่อนย้าย เมื่อผู้รับเหมาจะส่งมอบงานจะได้ทำการตรวจสอบได้
ที่มา: กรมโยธาธิการและผังเมือง