วิธีเลือกถังเก็บน้ำให้เหมาะสม

การเลือกถังเก็บน้ำ จะพูดถึงเฉพาะ ถังเก็บน้ำแบบสำเร็จรูป ซึ่งแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ ถังเก็บน้ำแบบสเตนเลส และถังเก็บน้ำแบบพลาสติกหรือไฟเบอร์กลาส ซึ่งถังเก็บน้ำทั้งสองชนิดนี้ จะมีข้อดี ข้อเสีย แตกต่างกันออกไป ดังนี้

ถังเก็บน้ำสเตนเลส จะได้เปรียบเรื่องของความแข็งแรงทนทาน ทำความสะอาดง่าย

ส่วนถังพลาสติกหรือไฟเบอร์กลาส จะได้เปรียบเรื่องรูปร่างหน้าตา สีสันที่หลากหลายกว่า และหมดปัญหาเรื่องสนิม

แต่หากจะเลือกถังเก็บน้ำที่ทำจากวัสดุชนิดใดชนิดหนึ่ง แทบจะไม่แตกต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับความชอบและเงินในกระเป๋า เพราะเดี๋ยวนี้เรื่อง สนิม เรื่องพลาสติกกรอบละลายเสื่อมคุณภาพ ผู้ผลิตได้แก้ไขไปเยอะแล้ว

แต่ถ้าหากจะซื้อมา เก็บน้ำฝนไว้ดื่มน่าจะเลือกแบบสเตนเลสเป็นหลัก จะหมดปัญหาเรื่องกลิ่นปน
ลงในน้ำไปได้ แต่ถ้าเก็บน้ำประปาสำรองไว้ควรใช้ถังพลาสติกหรือไฟเบอร์กลาสจะเหมาะกว่า

เพราะฉะนั้นการเลือกถังเก็บน้ำ เรื่องสำคัญจึงอยู่ที่ การเลือกขนาดและการติดตั้งมากกว่า ซึ่งจากผล
การสำรวจวิจัยของการประปานครหลวง ระบุว่าการใช้น้ำของแต่ละคนเฉลี่ยอยู่ที่ 200 ลิตร/วัน/คน ดังนั้น
หากจะเลือกขนาดถังสำรองน้ำไว้ใช้ควรเลือกให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในบ้าน โดยเอาจำนวนสมาชิก
ในบ้านคูณด้วย 200 ก็จะได้ขนาดถังเก็บน้ำที่เหมาะสมกับบ้านคุณ แต่ถ้าจะให้ดีเอาตัวเลขที่ได้คูณ 2 อีกทีเผื่อฉุกเฉินน้ำไม่ไหล 2 วันติดกัน เผือเวลาที่ต้องการใช้น้ำจำนวนมาก

ส่วนถังเก็บน้ำฝนให้เลือกขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่พื้นที่จะอำนวย เพราะน้ำฝนต้องมีมากพอสำหรับใช้จนถึงอีก 1 ปี

เลือกขนาดความจุของถังเก็บน้ำให้เหมาะสมกับสมาชิกในครอบครัว
1.มีจำนวนผู้ใช้น้ำ 5 คน ควรเลือกใช้ถังเก็บน้ำที่มีความจุประมาณ 1,000 ลิตร
2.มีจำนวนผู้ใช้น้ำ 6 คน ควรเลือกใช้ถังเก็บน้ำที่มีความจุประมาณ 1,200 ลิตร
3.มีจำนวนผู้ใช้น้ำ 7-8 คน ควรเลือกใช้ถังเก็บน้ำที่มีความจุประมาณ 1,600 ลิตร
4.มีจำนวนผู้ใช้น้ำ 9-10 คน ควรเลือกใช้ถังเก็บน้ำที่มีความจุประมาณ 2,000 ลิตร

ขอบคุณแหล่งที่มา
www.home.co.th