การจัดวางผังห้องนั้นไม่ได้คำนึงแค่ความสวยงามหรือการใช้งานเท่านั้น แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึง แต่หลาย ๆ คนอาจจะลืมไปก็คือการจัดวางห้องโดยการคำนึงถึงทิศทางของแสงและลม เพราะปัจจัยนี้นี่แหละที่ช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากขึ้น ดวงอาทิตย์มีช่วงเวลาที่จะโคจรอ้อมใต้ถึง 9 เดือนนั่นทำให้บ้านจะรับความร้อนจัดจ้านมากทางทิศตะวันตกและทิศใต้ ห้องที่ต้องการเลี่ยงความร้อนของแดดในยามบ่ายจึงต้องอพยพให้ไปอยู่ฝั่งเหนือหรือฝั่งตะวันออกซะให้หมดเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศมากนัก ส่วนลมนั้น ประมาณเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ทิศที่ได้รับความเย็นโชยมามากที่สุดคือทิศใต้และตะวันตกเฉียงใต้ ส่วนทิศเหนือหรือตะวันออกเฉียงเหนือจะฉ่ำชื่นด้วยลมโชยกันในเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ นั่นเป็นทิศทางของลมทางทฤษฎีว่าไว้ แต่ในเมืองที่แออัด ลมจะพัดไปทุกทิศทุกทาง จึงควรหันมาเน้นการเปิดช่องลมทางทิศเหนือและใต้จะดีกว่า…แต่ต้องระวังอย่าให้มีการทับตำแหน่งกันเอง ย้ายเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งบ้านออกจากช่องลมด้วย พอรู้ธรรมชาติ 2 อย่างนี้แล้วก็ลองไปสำรวจดูว่าจวางห้องไหนไว้อย่างไรบ้าง? |
ห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่น เป็นห้องที่ต้องการความสบาย ๆ ใช้งานมากในวันหยุดและใช้เกือบตลอดช่วงกลางวัน ตำแหน่งที่เหมาะสมในบ้านจึงควรวางไว้ที่ทิศเหนือ, ตะวันออกหรือตะวันออกเฉียงเหนือจะดีที่สุดและถ้าได้ช่องลมด้วยรับรองว่าห้องนี้น่า “นั่งเล่น” และน่า “รับแขก” เหมือนชื่อห้องแน่ ๆ ห้องอาหาร เป็นห้องที่ใช้งานช่วงสั้น ๆ จึงควรจัดวางไว้ที่ทิศตะวันออก, ตะวันออกเฉียงเหนือหรือเฉียงใต้ แต่ถ้ามั่นใจว่าใช้ช่วงเช้าตรู่และหัวค่ำก็สามารถย้ายไปลงทิศใต้หรือตะวันตกก็ได้เพราะตอนเช้าแดดยังไม่ถึง ส่วนหัวค่ำแดดก็หมดแล้ว…อย่าลืมเล็งหาช่องลมเพื่อระบายความร้อนที่สะสมในช่วงบ่ายด้วยถ้าคุณคิดจะวางลงทิศตะวันตก ห้องครัว เป็นห้องที่สะสมความร้อนมากที่สุด จะอย่างไรก็ตามแต่ ห้องนี้ต้องจัดลงทางปลายลมเท่านั้น เพื่อไม่ให้ลมพัดกลิ่นและความร้อนไปยังห้องอื่น เช่น ทิศตะวันตกหรือใต้เพื่อใช้เป็นห้องที่กันความร้อนให้ห้องอื่นด้วยและเพื่อรับความร้อนมาฆ่าเชื้อโรคด้วย…แต่สิ่งที่เน้นที่สุดก็คือการระบายอากาศของห้อง ห้องน้ำ เป็นห้องที่มีความชื้นสูง ยังไม่คิดถึงว่าถ้าออกแบบไม่ดีจะมีปัญหาเรื่องกลิ่นด้วย ตำแหน่งที่เหมาะสมควรจะไปลงที่ทิศใต้, ตะวันตกหรือตะวันตกเฉียงใต้เพื่อจะได้มีแสงสว่างและกันความร้อนให้ห้องอื่น ที่สำคัญคือต้องมีการระบายอากาศ ดูทิศทางลมให้ดีด้วย |
ห้องทำงาน เป็นห้องที่ต้องคำนึงถึงแสงธรรมชาติ ถ้าจะใช้งานในตอนกลางวันก็ให้ลงทิศเหนือหรือตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ถ้าเป็นตอนเย็นย่ำค่ำสนธยาก็โน่นเลยทิศตะวันออกหรือตะวันออกเฉียงใต้ อย่าลืมหาตำแหน่งดี ๆ ให้ลมโชยแผ่ว ๆ พอคลายเครียดด้วย บรรยากาศจะได้น่นั่งทำงาน ห้องนอน เป็นห้องที่สำคัญห้องหนึ่งจึงต้องพิถีพิถันในการจัดวางหน่อย การระบายอากาศควรมีอย่างน้อย 2 ด้านและวางหลบแดดช่วงบ่ายด้วย เพราะถ้าคุณวางไว้ทิศที่รับแดดบ่ายมาตลอด 4-5 ชั่วโมง คืนนั้นคุณจะร้อนจนนอนไม่หลับทีเดียว ทิศที่เหมาะสมคือทิศเหนือ, ตะวันออก, ตะวันออกเฉียงเหนือหรือเฉียงใต้ ที่จอดรถ ใครคิดว่าไม่สำคัญวางไว้ทิศทางไหนก็ได้ ไม่จริงหรอก ควรจัดลงในตำแหน่งที่ร้อนของบ้านเอาไว้เพื่อเป็นตัวกันความร้อนก่อนจะเข้าไปแผดเผาคนในบ้าน แต่ต้องมีการระบายความร้อนที่ดี ไม่เช่นนั้นทั้งกลิ่นทั้งความร้อนจะสะสมและแผ่รังสีเข้าไปในตัวบ้านได้อยู่ดี นี่คงเป็นแค่แนวคิดในการจัดวางห้องโดยคำนึงถึงธรรมชาติมากที่สุดเพื่อจะให้บ้านของคุณสามารถรับทั้งแสงสว่างและลมได้ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อเป็นการประหยัดค่าไฟฟ้าให้คุณด้วย |
ขอบคุณ สาระดีๆ จาก Home and i