การเลือกวอลเปเปอร์

วอลเปเปอร์ทำจากวัสดุหลากหลายชนิดด้วยกัน แต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันซึ่งก็เหมาะกับผนังห้องแต่ละห้องที่แตกต่างกันไป

ตัวอย่างชนิดของวอลเปเปอร์
- วอลเปเปอร์ผ้า ดูอ่อนนุ่ม สวยงาม เหมาะกับห้องที่ไม่พลุกพล่าน เช่น ห้องนอน หรือห้องผนังผิวไม่เรียบ แต่ข้อจำกัดคือ ราคาแพง ไม่ทนทาน
- วอลเปเปอร์แผ่นฟอยล์ ดูหรูหรา เหมาะกับพื้นที่เล็กๆ แต่มีราคาแพง ไม่ทนทาน ติดตั้งยาก
- วอลเปเปอร์กระดาษ มีลวดลายงดงามให้เลือกมากมาย ติดตั้งสะดวก แต่มีปัญหาในการทำความสะอาด เพราะกระดาษซับน้ำได้ง่าย จึงไม่ควรเลือกวอลเปเปอร์ที่เป็นกระดาษอย่างเดียว แต่ควรเคลือยไวนิล บุผ้าด้านหลังด้วย จะทำความสะอาดง่ายกว่า
- วอลเปเปอร์ไวนิล ถ้ามองในแง่ของการทำความสะอาดแล้ว ไวนิลถือเป็นวัสดุพลาสติกที่ช่วยขจัดปัญหาเรื่องความเปียกชื้น คราบน้ำมัน หรือคราบฝุ่นเกาะ เพราะไวนิลทำความสะอาดง่าย เพียงใช้ฟองน้ำชุบน้ำสบู่เช็ด คราบเลอะๆก็จะหมดไป นอกจากนี้ไวนิลยังมีความทนทาน ติดตั้งง่าย จึงเหมาะกับบริเวณที่ต้องใช้งานมาก โดยเฉพาะ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น เป็นต้น

วอลเปเปอร์ทำจากเส้นใยสังเคราะห์ มองจากภายนอกคล้ายผ้า สามารถใช้ได้ทั้งส่วนของผนังและเพดาน มีส่วนช่วยป้องกันความร้อน สามารถใช้ได้กับทุกห้อง ยกเว้นห้องน้ำและห้องครัว เนื่องจากเป็นห้องที่มีความชื้นสูง อาจทำให้วอลเปเปอร์หลุดร่อนหรือขึ้นราได้
วอลเปเปอร์ที่ใช้กันในปัจจุบันมี 2 ชนิดให้เลือก คือ วอลเปเปอร์แผ่นเรียบหรือ “ไวนิล” มีลักษณะเรียบไปกับพื้นผนัง ส่วนอีกชนิดหนึ่งคือ วอลเปเปอร์ชนิดเนื้อโฟม มีลักษณะหนา ลวดลายนูนออกมา และสามารถเก็บเสียงได้มากกว่าวอลเปเปอร์ชนิดไวนิล สำหรับการตัดสินใจเลือกซื้อวอลเปเปอร์ย่อมต้องคำนึงถึงคุณสมบัติที่ต่างกัน วอลเปเปอร์ชนิดไวนิล มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและทำความสะอาดง่าย แต่หากต้องการเปลี่ยนวอลเปเปอร์ภายในระยะเวลา 1-3 ปี ก็สามารถรื้อปูใหม่ได้ง่าย ส่วนวอลเปเปอร์ชนิดเนื้อโฟม จะมีลวดลายที่เหมือนจริง แม้ว่ามีราคาถูกกว่าแต่ทำความสะอาดได้ยากกว่า และมีอายุการใช้งานเพียง 5-6 ปี

การเลือกวอลเปเปอร์ให้เข้ากับบรรยากาศของห้องต่าง ๆ นั้น หากต้องการให้ห้องที่มีบรรยากาศคลาสสิกให้เลือกวอลเปเปอร์ที่มีลวดลายมาก ๆ เช่น ลายดอกไม้หรือลายเครือเถา แต่ถ้าต้องการห้องที่มีการประยุกต์ใช้งานได้หลายรูปแบบให้เลือกวอลเปเปอร์ที่มีลวดลายอ่อนช้อย สำหรับห้องที่มีความทันสมัยให้เลือกวอลเปเปอร์ที่ไม่มีลวดลาย

นอกจากค่าใช้จ่ายในการติดตั้งของวอลเปเปอร์ต่อตารางเมตรทั้งสองประเภทนี้มีความแตกต่างกันแล้ว ยังขึ้นอยู่กับค่าติดตั้งซึ่งบางแห่งไม่รวมค่าติดตั้ง การคำนวณพื้นที่เพื่อประมาณการค่าใช้จ่ายนั้นขึ้นอยู่กับการตกลงกันเบื้องต้น สามารถคำนวณได้ 2 วิธี คือ การคำนวณตามพื้นที่โดยนำความกว้างคูณความสูงของด้านนั้น ๆ แล้วนำพื้นที่ที่ได้มาคูณกับราคาค่าใช้จ่ายต่อตารางเมตรที่ทางบริษัทผู้ขายวอลเปเปอร์กำหนดไว้ อีกวิธีหนึ่งคือ คำนวณตามการใช้สินค้าจริงเป็นม้วน อย่างไรก็ตามการติดตั้งอาจใช้มากกว่าพื้นที่จริงประมาณ 10-20 % แล้วแต่ลวดลาย หากว่าต้องการรื้อวอลเปเปอร์เดิมที่ติดอยู่บนผนัง ทางบริษัทผู้ขายวอลเปเปอร์จะคิดค่าใช้จ่ายในการรื้อด้วย

การพิจารณาเลือกบริษัทผู้ขายวอลเปเปอร์ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก คือ การเลือกบริษัทที่อยู่ใกล้บ้าน เพื่อความสะดวกในการติดต่อและติดตามงาน การเลือกประเภทและลวดลายของวอลเปเปอร์ควรพิจารณาจากจำนวนที่มีให้เลือกว่ามากน้อยเพียงใด และราคาเหมาะสมหรือไม่ โดยสอบถามจากหลาย ๆ แห่งเพื่อเปรียบเทียบกัน นอกจากนี้ การบริการหลังการขายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ควรสอบถามถึงระยะการรับประกันและบริการซ่อมแซมให้ เมื่อตกลงกับบริษัทผู้ขายวอลเปเปอร์แล้ว ทางบริษัทก็จะส่งช่างมาวัดพื้นที่และคำนวณราคา พร้อมทั้งตกลงเรื่องระยะเวลาการติดตั้งจนแล้วเสร็จ ในขั้นตอนนี้หากเกิดข้อสงสัยใดๆ ควรสอบถามให้ชัดเจน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาขึ้นภายหลัง

ที่มา : www.thaihomemaster.com