ขั้นตอนที่ 1
แบบระบบ WASH OUT- เป็นส้วมราด หรือส้วมนั่ง ยองใช้น้ำตักราดเพื่อชำระล้าง จึงใช้ปริมาณน้ำน้ อย มีข้อเสียในเรื่องของสุขลักษณะ และการดักกลิ ่น
ขั้นตอนที่ 2
ระบบ WASH DOWN- เป็นส้วมชักโครก หรือส้วม นั่งราบชำระล้างโดยการปล่อยน้ำพุ่งลงจากรอบขอ บโถอย่างแรง และมีปริมาณมากพอ
ขั้นตอนที่ 3
ระบบ SIPHONIC WASH DOWN- มีการพัฒนาคอห่านใ ห้โค้งลาด และความยาวท่อมากขึ้น เพื่อให้เกิดก าลักน้ำ (SIPHON)ชำระล้างโดยการปล่อยน้ำพุ่งลง มาอย่างแรงเหมือนระบบ WASH DOWN
ขั้นตอนที่ 4
ระบบ SIPHON JET- มีการปล่อยน้ำเพื่อชำระล้า งจาก 2 ส่วน คือ ปล่อยลงคอห่าน โดยตรง จากรอบ ขอบโถ และปล่อยจากรูที่เจาะไว้ ตรงด้านหน้าส่วน ล่างของโถ พุ่งตรงเข้าคอห่าน ทำให้เกิดกาลักน้ำไ ด้ดีขึ้น เสียงดังน้อยกว่า มีพื้นผิวน้ำในโถมาก กว่า และท่อคอห่านโตกว่า
ขั้นตอนที่ 5
ระบบ SIPHON VORTEX- มีการปล่อยน้ำจาก 2 ส่ว น เช่นกัน คือ จากรอบขอบโถ และจากการไหลผ่านช่อ งน้ำไหลคล้ายท่อที่มีปลายอยู่ใต้ผิวน้ำ มุมของน้ ำที่ออกมาจะเอียงพอที่จะทำให้เกิดการหมุนของน้ำ ทำให้เกิดกาลักน้ำได้ดียิ่งขึ้นเสียงค่อนข้างเ งียบ นิยมทำเป็นโถแบบพิเศษ ราคาสูง ตัวถังชักโค รก หรือหม้อน้ำ มักจะหล่อเป็นชิ้นเดียวกับโถ จึ งเรียก เป็น สุขภัณฑ์ชิ้นเดียว (ONE PIECE TOILET)
ขั้นตอนที่ 6
การเลือกซื้อ- ขึ้นอยู่กับงบประมาณที่มีเป็นหลั ก แบบที่มีระบบชำระล้างที่มีประสิทธิภาพสูง และ ประหยัดน้ำ ราคาก็ต้องสูง แบบพิเศษที่มีขนาดใ หญ่ นั่งสบาย หรือที่มีการออกแบบให้ดูทันสมัย เ ป็นแนวโมเดิร์น ราคาก็จะสูง สีของโถสุขภัณฑ์ ก็ มีส่วนในการกำหนดราคาด้วย ทั้งนี้สีขาว จะราคา ต่ำที่สุด
ขั้นตอนที่ 7
การตรวจสอบ- ทุกครั้งที่ซื้อต้องไม่ลืมตรวจดูว ่า มีอุปกรณ์ภายในหม้อน้ำ พร้อมคู่มือการติดตั้ งอยู่ครบหรือไม่ สี จะต้องเรียบเป็นสีเดียวกัน และไม่มีรอยด่าง และรอยตำหนิต่างๆ
ที่มา HomePro