สัญญาจ้างที่ปรึกษาออกแบบและควบคุมงาน

ตัวอย่าง
สัญญาจ้างที่ปรึกษาออกแบบและควบคุมงาน

สัญญาเลขที่…………….
สัญญาฉบับนี้ทำขึ้น ณ…...……………………………………………………………
ตำบล/แขวง………….…อำเภอ/เขต……………….จังหวัด………………เมื่อวันที่……..…..เดือน……..….พ.ศ. ………..ระหว่าง……...………..โดย……………….ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “ผู้ว่าจ้าง” ฝ่ายหนึ่ง กับ………….ซึ่งจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ณ………………….มีสำนักงานใหญ่อยู่เลขที่……….ถนน…………..ตำบล/แขวง…………..อำเภอ/เขต..……….จังหวัด………..โดย……….ผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล ปรากฏตามหนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท………………..ลงวันที่………………….(และหนังสือมอบอำนาจลงวันที่…………)* แนบท้ายสัญญานี้ (ในกรณีที่ที่ปรึกษาเป็นบุคคลธรรมดาให้ใช้ข้อความว่ากับ……….อยู่บ้านเลขที่…….ถนน…………..ตำบล/แขวง…………………อำเภอ/เขต………………..จังหวัด…………….)* ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “ที่ปรึกษา” อีกฝ่ายหนึ่ง
ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงทำสัญญากันมีข้อความดังต่อไปนี้

ภาค ก. การออกแบบ
ข้อ 1. ผู้ว่าจ้างตกลงจ้างและที่ปรึกษาตกลงรับจ้างออกแบบ………….……………...(ชื่อโครงการพร้อมวัตถุประสงค์ของการจ้างที่สำคัญและรายละเอียดทุกรายการ)…………………………
……………………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………………………ตามความต้องการของผู้ว่าจ้าง ทั้งนี้ ที่ปรึกษาจะต้องปฏิบัติงาน ให้เป็นไปตามหลักวิชาการ ทางด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม และบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ข้อ 2. ที่ปรึกษาจะลงมือทำงานภายในวันที่…………เดือน……………..พ.ศ..………และจะดำเนินการออกแบบตามสัญญานี้ให้แล้วเสร็จภายในวันที่…...เดือน………พ.ศ………
ข้อ 3. ผู้ว่าจ้างและที่ปรึกษา ได้ตกลงราคาค่าจ้างออกแบบตามสัญญานี้ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น………………….บาท (…………………………..)
ข้อ 4 ผู้ว่าจ้างตกลงจ่ายค่าจ้างให้แก่ที่ปรึกษาเป็นงวด ๆ ดังนี้
งวดที่ 1 จำนวนร้อยละ……………..ของค่าจ้างออกแบบตามข้อ 3 เป็นเงิน…………...บาท(……………………) จะจ่ายให้เมื่อ…………………
งวดที่ 2 จำนวนร้อยละ …………….ของค่าจ้างออกแบบตามข้อ 3 เป็นเงิน…………..บาท(…………………...) จะจ่ายให้เมื่อ………………….
งวดที่ 3 จำนวนร้อยละ……………..ของค่าจ้างออกแบบตามข้อ 3 เป็นเงิน………….บาท(……………..……) จะจ่ายให้เมื่อ…………………..
งวดที่ 4 …………………………………………………………………….....
…………………………………..……ฯลฯ…………….…………………....
งวดสุดท้ายเงินที่เหลือจำนวน………………..บาท (………..……………….) จะจ่ายให้เมื่อผู้ว่าจ้าง ได้รับมอบงานออกแบบจากที่ปรึกษาครบบริบูรณ์ เป็นที่เรียบร้อยตามสัญญาแล้ว
การจ่ายเงินตามเงื่อนไขแห่งสัญญานี้ ผู้ว่าจ้างจะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของ ที่ปรึกษา ชื่อธนาคาร……………………………..…สาขา…………………………………ชื่อบัญชี……………………….เลขที่บัญชี……………………ทั้งนี้ ที่ปรึกษาตกลงเป็นผู้รับภาระเงินค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการอื่นใด เกี่ยวกับการโอนที่ธนาคารเรียกเก็บ และยินยอมให้มีการ หักเงินดังกล่าว จากจำนวนเงินโอนในงวดนั้น ๆ (ความในวรรคนี้ ใช้สำหรับกรณีที่ส่วนราชการ จะจ่ายเงินตรงให้แก่ที่ปรึกษา (ระบบ Direct Payment) โดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของ ที่ปรึกษา ตามแนวทางที่กระทรวงการคลังกำหนด)
ข้อ 5. ที่ปรึกษาจะส่งมอบผลงาน พร้อมทั้งแบบและรายละเอียดประกอบแบบ จำนวน………ชุด ให้แก่ผู้ว่าจ้าง ในวันส่งมอบงานตามสัญญา
ข้อ 6. ผู้ว่าจ้างเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในผลงานที่ที่ปรึกษาได้ออกแบบตามสัญญานี้ และที่ปรึกษาจะนำผลงาน และรายละเอียดของงานตามสัญญานี้ไปใช้ หรือเผยแพร่ในกิจการอื่น นอกเหนือจากที่ได้ระบุไว้ในสัญญานี้ไม่ได้ เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จากผู้ว่าจ้างก่อน
ข้อ 7 ในกรณีที่ผลงานของที่ปรึกษาบกพร่อง หรือไม่เป็นไปตามความประสงค์ ของผู้ว่าจ้างอันเนื่องมาจากผู้รับจ้าง มิได้ดำเนินการให้ถูกต้องตามหลักวิชาการทางสถาปัตยกรรม และ/หรือวิศวกรรม ที่ปรึกษาต้องรีบทำการแก้ไข ให้เป็นที่เรียบร้อย โดยไม่คิดค่าบริการจากผู้ว่าจ้างอีก ถ้าที่ปรึกษาหลีกเลี่ยงหรือบิดพริ้ว ไม่รีบจัดการแก้ไขให้เป็นที่เรียบร้อย ในกำหนดเวลา ที่ผู้ว่าจ้างแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ว่าจ้างมีสิทธิจ้างที่ปรึกษารายอื่นทำการแทน โดยที่ปรึกษาจะต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินค่าจ้างในการนี้แทนผู้ว่าจ้างโดยสิ้นเชิง
ถ้ามีความเสียหายเกิดขึ้น แก่งานที่ออกแบบ อันเนื่องมาจากการที่ที่ปรึกษาได้ออกแบบงานไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการทางสถาปัตยกรรม และ/หรือวิศวกรรม ที่ปรึกษาจะต้องทำการแก้ไขความเสียหายดังกล่าว ภายในเวลาที่ผู้ว่าจ้างกำหนดให้ ถ้าที่ปรึกษาไม่สามารถแก้ไขได้ ที่ปรึกษาจะต้องชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น โดยสิ้นเชิง ซึ่งหมายความรวมทั้งความเสียหาย ที่เกิดขึ้นโดยตรง และโดยส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับความเสียหายที่เกิดขึ้น จากงานบริการนี้ด้วย
ถ้าที่ปรึกษาไม่เริ่มปฏิบัติงาน ภายในกำหนด หรือมีเหตุให้ผู้ว่าจ้างเชื่อได้ว่า ที่ปรึกษาไม่สามารถทำงานให้แล้วเสร็จ ภายในกำหนด หรือล่วงเลยกำหนดเวลาแล้วเสร็จไปแล้ว หรือที่ปรึกษา ทำผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด ผู้ว่าจ้างมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ และเมื่อบอกเลิกสัญญาแล้ว ผู้ว่าจ้างมีสิทธิริบหรือบังคับจากหลักประกัน และมีสิทธิเรียกค่าเสียหายอื่น (ถ้ามี) จากที่ปรึกษาด้วย

ภาค ข. การควบคุมงาน
ข้อ 8 ผู้ว่าจ้างตกลงจ้าง และที่ปรึกษาตกลงรับจ้างควบคุมงานก่อสร้าง……….…… ………………….(ชื่อโครงการพร้อมรายละเอียดการจ้างที่สำคัญทุกรายการ)…..…………………….…
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………ตามความต้องการของผู้ว่าจ้าง ทั้งนี้ ที่ปรึกษาจะเป็นผู้ควบคุมงานแทนผู้ว่าจ้าง ตามสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง ระหว่างผู้ว่าจ้างกับผู้รับจ้างเหมาก่อสร้าง ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “สัญญาก่อสร้าง” และ “ผู้รับจ้าง” ตามลำดับ
ข้อ 9.ที่ปรึกษาจะควบคุมงานให้เป็นไปตามสัญญาก่อสร้างและถูกต้องตามหลักวิชาการทางด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม และจะต้องรับผิดชอบต่อผู้ว่าจ้างจนกว่างานตามสัญญาก่อสร้างจะแล้วเสร็จตามรูปแบบและรายละเอียดของแบบงานในภาค ก. ของสัญญานี้
ข้อ 10. ผู้ว่าจ้างและที่ปรึกษา ได้ตกลงราคาค่าจ้างควบคุมงานตามสัญญานี้ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น………………บาท (…………………………) โดยผู้ว่าจ้างจะแบ่งจ่ายค่าจ้างให้แก่ที่ปรึกษา เป็นรายเดือนเดือนละเท่า ๆ กัน ตามอายุสัญญาก่อสร้างเป็นเงิน เดือนละ…………………….…….บาท (…………….……)โดยจะจ่ายให้เมื่อที่ปรึกษาได้ควบคุมงาน และทำรายงานการควบคุมงานและผลงานตามโครงการในเดือนนั้น ๆ เสนอต่อผู้ว่าจ้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การจ่ายเงินตามเงื่อนไขแห่งสัญญานี้ ผู้ว่าจ้างจะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของที่ปรึกษา ชื่อธนาคาร……………………………………สาขา…………………………ชื่อบัญชี……………………………….เลขที่บัญชี……………………ทั้งนี้ ที่ปรึกษาตกลงเป็นผู้รับภาระเงินค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการอื่นใด เกี่ยวกับการโอนที่ธนาคารเรียกเก็บ และยินยอมให้มีการหักเงินดังกล่าว จากจำนวนเงินโอนในงวดนั้น ๆ (ความในวรรคนี้ ใช้สำหรับกรณีที่ ส่วนราชการจะจ่ายเงินตรงให้แก่ที่ปรึกษา (ระบบ Direct Payment) โดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของที่ปรึกษา ตามแนวทางที่กระทรวงการคลังกำหนด)
ข้อ 11. ที่ปรึกษาจะจัดให้มีผู้ควบคุมงาน ที่มีความรู้และความชำนาญงาน ให้เหมาะสมกับสภาพการควบคุมงานตามสัญญา และให้สอดคล้องกับแผนการทำงานของที่ปรึกษา ที่ปรากฏในเอกสารภาคผนวก………..แนบท้ายสัญญานี้
ข้อ 12. ในกรณีที่ผู้ว่าจ้างพิจารณาเห็นว่า การดำเนินงานของผู้ควบคุมงาน จะเกิดความเสียหายแก่งาน ตามสัญญาก่อสร้าง ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะให้ที่ปรึกษาเปลี่ยนผู้ควบคุมงานบางคน หรือทั้งหมดนั้นได้ และที่ปรึกษาต้องดำเนินการตามความประสงค์ ของผู้ว่าจ้างโดยเร็ว
การเปลี่ยนผู้ควบคุมงาน ตามความในวรรคแรก ที่ปรึกษาจะต้องเสนอรายชื่อผู้ควบคุมงาน ที่จะปฏิบัติงานแทนนั้น ต่อผู้ว่าจ้างเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน
ข้อ 13. ถ้าปรากฏว่าผู้รับจ้าง ไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามรายละเอียด ที่ระบุไว้ในสัญญาก่อสร้างเป็นหน้าที่ของที่ปรึกษา จะสั่งให้ผู้รับจ้างดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้อง ตามรายละเอียดดังกล่าว
ในกรณีที่มีความจำเป็น ทางด้านสถาปัตยกรรม และ/หรือวิศวกรรมที่จะต้องแก้ไขปรับปรุงแบบหรือรายการที่กำหนดไว้ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพข้อเท็จจริง และสิ่งแวดล้อม ซึ่งมิฉะนั้นจะเกิดความเสียหายได้ ที่ปรึกษามีอำนาจสั่งระงับการดำเนินงาน ของผู้รับจ้างไว้ก่อน หรือในกรณีเร่งด่วนอาจสั่งการแก้ไขได้ตามความจำเป็น และเมื่อได้ดำเนินการไปแล้ว จะต้องทำหนังสือรายงานให้ผู้ว่าจ้างทราบโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่จะทำให้ผู้ว่าจ้าง ต้องรับภาระการเงินเพิ่มขึ้นแล้ว ที่ปรึกษาต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ว่าจ้างก่อน
ข้อ 14. ถ้าหากสัญญาก่อสร้าง ระหว่างผู้รับจ้างกับผู้ว่าจ้างต้องเลิกไป หรือระงับลงชั่วคราวด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม ที่ปรึกษาไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างควบคุมงานในเดือนนั้น จนกว่างานก่อสร้างอาคารในเดือนนั้น ๆ ได้ทำการแล้วเสร็จตามสัญญา ไม่ว่าโดยผู้รับจ้างรายเดิมหรือผู้รับจ้างรายใหม่ หรือจนกว่าจะมีการบอกเลิกสัญญาจ้างที่ปรึกษา ผู้ว่าจ้างจึงจะจ่ายเงินค่าจ้างเดือนนั้นให้แก่ที่ปรึกษา
ข้อ 15 ในกรณีที่สัญญาก่อสร้างระหว่างผู้ว่าจ้างกับผู้รับจ้างต้องเลิกไป หรือระงับลงชั่วคราวด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม ผู้ว่าจ้างมีสิทธิปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้
(1) งดจ่ายเงินค่าจ้างควบคุมงานให้แก่ที่ปรึกษา ตลอดระยะเวลาที่สัญญาก่อสร้างต้องเลิกไปหรือระงับลงชั่วคราว แต่จะจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ที่ปรึกษา เมื่องานจ้างตามสัญญาก่อสร้างนั้น ได้ดำเนินการต่อไป ไม่ว่าจะโดยผู้รับจ้างรายเดิมหรือรายอื่น
(2) บอกเลิกสัญญาจ้าง ที่ปรึกษาควบคุมงานรายนี้ได้ทันที หากสัญญาก่อสร้างระงับลงชั่วคราวเกิน………..วัน หรือมีการบอกเลิกสัญญาก่อสร้าง และผู้ว่าจ้างไม่สามารถหาผู้รับจ้างรายใหม่ได้จนเกิน…………….วัน นับถัดจากวันที่สัญญาก่อสร้างเลิกกัน ที่ปรึกษามีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้
ข้อ 16. ในแต่ละเดือน ที่ปรึกษาจะทำรายงานผลงานและอุปสรรคของผู้รับจ้าง ที่ได้ปฏิบัติไปแล้วให้ผู้ว่าจ้างทราบ ในกรณีที่ครบอายุสัญญาก่อสร้าง หากผู้รับจ้างไม่สามารถปฏิบัติงานแล้วเสร็จตามสัญญา ที่ปรึกษาจะต้องรีบรายงานสรุปผลงานทั้งหมด และอุปสรรคที่เป็นเหตุทำให้การปฏิบัติงานของผู้รับจ้าง ไม่เป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ เสนอต่อผู้ว่าจ้าง
ข้อ 17 การควบคุมงานตามสัญญานี้ ที่ปรึกษาจะปฏิบัติดังนี้
(1) จะดำเนินการควบคุมงาน นับตั้งแต่วันที่ผู้รับจ้างเริ่มปฏิบัติงาน จนกว่างานตามสัญญาก่อสร้างจะแล้วเสร็จตามสัญญา
(2) จะไม่ละเลย หรือละทิ้งหน้าที่การควบคุมงาน หรือกระทำการมิชอบในหน้าที่ของตน ก่อให้เกิดความเสียหาย หรือทำให้งานตามสัญญาก่อสร้าง ดำเนินไปโดยไม่สะดวกล่าช้า หรือเกิดความเสียหายแก่ผู้รับจ้าง
(3) จะไม่มีผลประโยชน์ส่วนได้เสียใด ๆ ร่วมกับผู้ว่าจ้าง และจะไม่ร่วมกับผู้รับจ้าง กระทำการหรืองดเว้นกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง อันอาจเป็นเหตุให้ผู้ว่าจ้าง ได้รับความเสียหาย
ถ้าที่ปรึกษาหลีกเลี่ยงหรือกระทำการใด ๆ ขัดต่อข้อกำหนดประการใดประการหนึ่ง ดังกล่าวข้างต้น หรือที่ปรึกษาปฏิบัติผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่ง ผู้ว่าจ้างมีสิทธิบอกเลิกสัญญานี้ได้ทันที และมีสิทธิเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้น จากที่ปรึกษา พร้อมทั้งริบหรือบังคับจากหลักประกัน ที่ที่ปรึกษามอบไว้แก่ผู้ว่าจ้างตามสัญญานี้ได้
ข้อ 18. ในกรณีที่มีความเสียหายเกิดขึ้น แก่งานตามสัญญาก่อสร้าง อันเนื่องมาจากการกระทำของที่ปรึกษา จะโดยการละเลยต่อหน้าที่ หรือมิได้ใช้ความรู้ที่เหมาะสมกับการควบคุมงาน หรือมิได้ควบคุมตรวจสอบ ให้ผู้รับจ้างดำเนินการดังกล่าวก็ตาม ที่ปรึกษาต้องรีบหาทางแก้ไขให้เรียบร้อยด้วยค่าใช้จ่ายของที่ปรึกษาเอง และถ้าที่ปรึกษาหลีกเลี่ยง หรือบิดพริ้วไม่แก้ไขให้เป็นที่เรียบร้อย ในเวลาที่ผู้ว่าจ้างกำหนดให้ ผู้ว่าจ้างมีสิทธิว่าจ้างผู้อื่น ดำเนินการแทน โดยที่ปรึกษาจะต้องชดใช้ค่าเสียหาย ทั้งในส่วนที่เกิดขึ้นโดยตรง และในส่วนที่เกี่ยวเนื่อง อันเกิดจากความเสียหายดังกล่าวนั้นด้วย
ข้อ 19. ในกรณีที่ผู้รับจ้างปฏิบัติงานล่วงเลยกำหนด ตามสัญญาก่อสร้าง เนื่องจากความผิดของผู้รับจ้าง ที่ปรึกษาจะได้รับค่าจ้างตามจำนวนวันที่ได้ปฏิบัติล่วงเลยกำหนดเวลานั้น ต่อเมื่อผู้ว่าจ้างได้เรียกร้องเอาจากผู้รับจ้าง มาจ่ายให้ที่ปรึกษาในอัตราวันละ………….บาท (………………….)
ในกรณีที่ผู้รับจ้างได้ปฏิบัติงานล่วงเลยกำหนดเวลา ตามสัญญาจ้างก่อสร้าง เนื่องจากเหตุที่มิได้เกิดจากความผิดของผู้รับจ้าง และมิได้เกิดจากความผิดของที่ปรึกษา ที่ปรึกษาจะได้รับค่าจ้างตามจำนวนวันที่ ปฏิบัติล่วงเลยกำหนดเวลานั้น ตามจำนวนที่เหมาะสม และเป็นธรรม แต่ไม่เกินกว่าอัตราค่าจ้าง รายเดือนตามที่กำหนดในสัญญาข้อ 10
ข้อ 20. ในขณะทำสัญญานี้ที่ปรึกษาได้นำหลักประกันเป็น……………………………เป็นจำนวนเงิน…..……………บาท (……………………………) ซึ่งเท่ากับร้อยละ………..(…….%)ของราคาค่าจ้างตามสัญญาข้อ 3 และ ข้อ 10 รวมกัน มามอบไว้แก่ผู้ว่าจ้าง เพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญานี้
เมื่อที่ปรึกษาได้ปฏิบัติงานตามภาค ก. ของสัญญานี้ เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ผู้ว่าจ้างจะคืนหลักประกันจำนวนครึ่งหนึ่ง ให้แก่ที่ปรึกษา ส่วนหลักประกันที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง ผู้ว่าจ้างจะคืนให้เมื่อที่ปรึกษาปฏิบัติงานในภาค ข. ของสัญญานี้ เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ข้อ 21. เอกสารแนบท้ายสัญญาดังต่อไปนี้ ให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้
21.1 ผนวก 1 (…………….) จำนวน………..หน้า
21.2 ผนวก 2 (………….…) จำนวน………..หน้า
21.3 …………………..ฯลฯ…………………….
ความใดในเอกสารแนบท้ายสัญญา ที่ขัดแย้งกับข้อความในสัญญานี้ ให้ใช้ข้อความในสัญญานี้บังคับ และในกรณีที่เอกสารแนบท้ายสัญญา ขัดแย้งกันเอง ที่ปรึกษาจะต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัย ของผู้ว่าจ้าง
สัญญานี้ทำขึ้นสองฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน คู่สัญญาได้อ่านและเข้าใจข้อความ โดยละเอียดตลอดแล้ว จึงได้ลงลายมือชื่อพร้อมทั้งประทับตรา (ถ้ามี) ไว้เป็นสำคัญ ต่อหน้าพยานและคู่สัญญา ต่างยึดถือไว้ฝ่ายละฉบับ

(ลงชื่อ)…………………………..ผู้ว่าจ้าง
(…………………………………)

(ลงชื่อ)…………………………..ที่ปรึกษา
(…………………………………)

(ลงชื่อ)……………………….…พยาน
(…………………………………)

(ลงชื่อ)………………………….พยาน
(…………………………………)



____________________________________________________________________________________
หมายเหตุ *เป็นข้อความหรือเงื่อนไขเพิ่มเติมซึ่งส่วนราชการผู้ทำสัญญาอาจเลือกใช้หรือตัดออกได้ตามข้อเท็จจริง

หนังสือสัญญาเช่าชื้อ

หนังสือสัญญาเช่าชื้อ

ทำขึ้นที่……………………จำนวน…………………ฉบับ
เมื่อวันที่…………..เดือน………………………….. พ.ศ. ………….

ทุนฉบับมีข้อความตรงกันและคู่สัญญาทุกฝ่ายต่างถือไว้คนละฉบับซึ่งมีข้อความดังนี้ :-
ข้าฯ ………..………………………อายุ….……ปี ถือบัตรประจำตัว……………เลขที่………...
ออกให้ ณ …………………………บัตรหมดอายุวันที่………………ข้าฯ มีภูมิลำเนาอยู่ที่…………….
ถนน……………..ตรอก/ซอย……………..ตำบล………………….เขต/อำเภอ………………………….จังหวัด……………………ขณะนี้พักอยู่ที่……………….ถนน……………………ตรอก/ซอย…………ตำบล…………………….เขต/อำเภอ……………………จังหวัด………………..โทร. …………………
ทำงานอยู่ที่ ………………………………ถนน……………ตรอก/ซอย………………………………….
ตำบล……………………เขต/อำเภอ……………………………..จังหวัด………………………………..
โทร. ………………………… ข้าฯ ขอทำสัญญาเช่าซื้อ กับบริษัท/ร้าน/นาย/นาง/นางสาว…………….
…………………………สำนักงาน ซึ่งตั้งอยู่เลขที่………………………….ถนน……………………….
ตำบล……………………เขต/อำเภอ……………………………..จังหวัด………………………………..
แขวงไปรษณีย์……………………………บัตรประจำตัว……………………..เลขที่…………………….
ออกให้ ณ ………………………บัตรหมดอายุ……………………ถือบัตรประจำตัวผู้ประกอบการค้า
เลขที่……………..ออกให้ ณ ……………………บัตรหมดอาย ………………ใบทะเบียนการค้าเลขที่
…………………..ใช้ได้ถึง…………………………….ใบทะเบียนพาณิชย์เลขที่………………………...
จดทะเบียนเมื่อ…………………….ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงทำสัญญาเช่าซื้อสิ่งของต่าง ๆ ตามรายการ และ
เงื่อนไขดังนี้………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
ซึ่งมีแผนผังและรายละเอียดแนบแผนที่หรือเขียนแจ้งอยู่ด้านหลังของสัญญานี้โดยถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้ด้วยประกอบกันรวมทั้งสิ้นมี………………………………..รายการ รวมมูลค่าเป็นราคาจำนวน
…………………………..… บาท (ตัวอักษรเงิน…………………………บาทถ้วน) โดยผู้เช่าซื้อจะชำระ
งวดละ ……………………..บาท เป็นจำนวน……………………….งวด ทั้งจะเป็นผู้นำมาชำระเอง ณ
สำนักงานของผู้ให้เช่าซื้อ ในวันที่ ………………….ของเดือนทุกงวด ซึ่งแต่ละงวดห่างกัน ………. วัน
หรือผู้ให้เช่าจะส่งพนักงานมาเก็บเงินเอง ณ ที่อยู่ของผู้เช่าซื้อทุกวันที่ ………………………ของเดือนทุกงวด งวดหนึ่ง ๆ ห่างกัน ………………..วัน และได้ชำระงวดแรกในวันทำสัญญานี้แล้ว หากผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระหนี้สองงวดติด ๆ กัน ผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและยึดสิ่งของที่เช่าซื้อหรือตกลงเป็นประการอื่นกับผู้เช่าซื้อก็ย่อมทำได้ แต่ถ้าทรัพย์ที่ให้เช่าต้องถูกยึดสิ่งของที่เช่าซื้อหรือตกลงเป็นการอื่นกับผู้เช่าซื้อก็ย่อมทำได้แต่ถ้าทรัพย์ที่ให้เช่าต้องถูกยึดในสภาพที่เสียหายหรือชำรุดทรุดโทรม ในสภาพที่ทำให้ราคาลดน้อยถอยลงจากราคาเต็มจำนวนของสัญญานี้ลงเท่าใดผู้เช่าซื้อจะต้องชดใช้ให้พร้อมทั้งต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการติดราคาเต็มยึดทรัพย์คืนให้แก่ผู้ให้เช่าจนครบถ้วนอีกโสตหนึ่งด้วย และตราบใดที่ยังอยู่ในระยะเวลาของสัญญาเช่าซื้อหรือผู้เช่าซื้อยังผ่อนชำระไม่ครบทุกงวดผู้เช่าซื้อจะนำทรัพย์ที่เช่าซ้อตามสัญญานี้ไปจำหน่ายจ่ายโอนหรือ
นิติกรรมใด ๆ รวมทั้งการให้ยืมใช้ประโยชน์โดยมิได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่าซื้อก่อนมิได้หากผิดสัญญานี้ด้วยประการหนึ่งประการใดก็ตามผู้เช่าซื้อจะถูกยึดทรัพย์ที่เช่าซ้อคืนทันที และออกค่าชดใช้ให้ผู้ให้เช่าซื้อทุกประการ หากทรัพย์ที่เช่าซื้อบุบสลายหรือสูญหายด้วยเหตุใด ๆ ก็ตามผู้เช่าซื่อจะรับชดใช้ให้จนเต็มตามมูลค่าของทรัพย์นั้นรวมทั้งการสูญหายหรือเสียหายโดยเหตุสุดวิสัยด้วย ข้อตกลงพิเศษเพื่อนยกเว้นความรับผิดหรือรับผิดเพิ่มเติม มีรายการดังนี้………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
เมื่อผู้เช่าซ้อได้ชำระเงินครบตามสัญญานี้แล้วผู้ให้เช่าซื้อถือว่ายอมให้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่เช่าตกเป็นของผู้เช่าซื้อทันที และถ้าทรัพย์นั้นต้องจดทะเบียนโอนผู้ให้เช่าซื้อก็จะทำการโอนทางทะเบียนให้ในวันรับชำระเงินงวดสุดท้ายทันทีเช่นกัน ทุกฝ่ายในสัญญานี้ได้อ่านเข้าใจดีแล้ว จึงลงชื่อไว้เพื่อเป็นหลักฐานต่อหน้าพยานและบุคคลอื่น ๆ ในสัญญานี้

ลงชื่อ………………………………….ผู้ให้เช่าซื้อ
(………………………………….)

ลงชื่อ……………………………………..ผู้ให้ความยินยอม
(……………………………………. )

ลงชื่อ………………………………….ผู้เช่าซื้อ
(………………………………….)
ลงชื่อ……………………………………..ผู้ให้ความยินยอม
(……………………………………..)

ลงชื่อ………………………………….พยาน บัตรประจำตัว…………………….เลขที่……………..
(………………………………….) ทำงานอยู่ที่ ………………………โทร. …………….
มีภูมิลำเนาอยู่เลขที่…………………………………..
ลงชื่อ………………………………….พยาน บัตรประจำตัว…………………….เลขที่……………..
(………………………………….) ทำงานอยู่ที่ ………………………โทร. …………….
มีภูมิลำเนาอยู่เลขที่…………………………………..
ลงชื่อ…………………………….ผู้ค้ำประกัน ตามสัญญาค้ำประกันเลขที่………….………………..
(…………………………….) ลงวันที่ …………………จำนวนเงิน…… ……………
บัตรประจำตัว…………………………………เลขที่………………….หมดอายุ………………………
มีภูมิลำเนาอยู่ที่……………………………….หรือพักอยู่ที่ เลขที่…………………ถนน……………..
ตำบล…………………………….เขต/อำเภอ……………………..จังหวัด……………………………..
ทำงานอยู่ที่…………………………..ตำแหน่ง …………………………เงินเดือน………………….บาท
โทร. …………………………

หนังสือสัญญาเช่าบ้าน

หนังสือสัญญาเช่าบ้าน ฉบับที่……….

สัญญาทำที่……………………………….ณ วันที่………..เดือน……………..พ.ศ………………...
ระหว่าง………………………………………………….……………..ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่าผู้ให้เช่าฝ่ายหนึ่งกับ ……………………………………………………………….ซึ่งต่อไปนี้รียกว่า ผู้เช่าอีกฝ่ายหนึ่งได้ทำสัญญา กันดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ผู้ให้ผู้เช่าตกลงให้เช่าและผู้เช่าตกลงรับเช่า………………………………..เพื่อค้าขาย ……………………….ตำบล………………………จังหวัด…………………………มีกำหนดเวลา……..ปี นับตั้งแต่วันที่ ………….เดือน………………………พ.ศ……………เป็นต้นไป โดยผู้เช่ายอมเสียค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่า เป็นเงินค่าเช่าเดือนละ………………บาท……………สตางค์ (……………………….. บาท)
ข้อ 2. ผู้ให้เช่าได้รับเงินล่วงหน้าไว้เป็นประกันการเช่าจากผู้เช่าเป็นจำนวนเงิน………….บาท
ข้อ 3. ผู้เช่ายอมชำระค่าเช่าแก่ผู้ให้เช่าภายในวันที่………………………ของเดือนทุกๆ เดือน ถ้าไม่ชำระตามกำหนดนี้ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่ายึดทรัพย์สินของผู้เช่าได้และใสกุญแจห้องของผู้เช่าก็ได้
ข้อ 4. ค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินผู้………………………………………..เป็นผู้เสีย
ข้อ 5. ผู้เช่ายอมรับรักษาตัวบ้านที่เช่ามิให้ชำรุดทรุดโทรมไปกว่าเดิม ถ้าผู้เช่ามีความประสงค์จะดัดแปลงหรือเพิ่มเติมสิ่งใดลงไปอีก ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนจึงจะทำได้ ถ้าเกิดการเสียหายใดๆ ขึ้นผู้เช่ายอมรับผิดใช้ค่าเสียหายทั้งสิ้น
ข้อ 6. บรรดาสิ่งก่อสร้างหรือซ่อมแซมลงในบริเวณบ้านเช่านี้ เมื่อผู้เช่าออกจากบ้านเช่า ห้าม มิให้รื้อถอนหรือทำลายเป็นอันขาด และสิ่งก่อสร้างซ่อมแซมดังกล่าวแล้วนั้นต้องตกเป็นของผู้ให้เช่าทั้งสิ้นโดยผู้เช่าจะเรียกค่าเสียหายใดๆ ไม่ได้เลย ถ้าเกิดอัคคีภัยขึ้น สัญญานี้เป็นอันระงับสิ้นสุดลง
ข้อ 7. ผู้เช่ารับว่าจะไม่ให้ผู้อื่นเช่าช่วงต่อไปอีกทอดหนึ่ง เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษร และจะไม่ยอมให้ผู้หนึ่งผู้ใดอยู่อาศัยดำเนินกิจการค้าขายหรือรับใช้ในหน้าที่ใดๆ ภายในสถานที่เช่านี้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษร และผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่าหรือตัวแทนของให้ผู้เช่าเข้าตรวจดูบ้านเช่าได้เสมอ ถ้าผู้เช่าออกไปจากบ้านไม่ว่ากรณีใดผู้เช่าจะเรียกค่าเสียหายหรือค่าขนย้ายจากผู้ให้เช่าไม่ได้
ข้อ 8. ผู้เช่าต้องจัดการในบริเวณบ้านเช่าอย่าให้มีสิ่งโสโครกและมีกลิ่นเหม็น และไม่กระทำการอึกทึกจนคนอื่นได้รับความรำคาญปราศจากความปกติสุข และไม่เก็บรักษาสิ่งที่เป็นเชื้อเพลิงและไม่กระทำสิ่งใดๆ ที่น่าหวาดเสียวหน้าจะเป็นอันตรายแก่ผู้อยู่ใกล้เคียง
ข้อ 9. ถ้าผู้เช่าจะประกันเพลิงไหม้สำหรับทรัพย์สมบัติหรือสินค้าของตนภายในบริเวณบ้านเช่าต้องได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนจึงจะประกันเพลิงไหม้ได้
ข้อ 10. ถ้าผู้เช่าจะประพฤติผิดล่วงละเมิดสัญญาแม้แต่ข้อหนึ่งข้อใด หรือกระทำผิดวัตถุประสงค์ข้อหนึ่งข้อใด ยอมให้ผู้ให้เช่าทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะเข้ายึดครอบครองสถานที่และสิ่งที่เช่าได้โดยพลันและมีสิทธิบอกเลิกสัญญาทันที
ข้อ 11. เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าก็ดี หรือผู้เช่าผิดสัญญาเช่าก็ดี ผู้เช่ายอมให้ถือว่าผู้เช่ายอมออกจากที่เช่า
ข้อ 12. ถ้าผู้ให้เช่าตกลงขายทรัพย์สินที่เช่าให้แก่ผู้ใดก่อนครบกำหนดการเช่าตามสัญญานี้ ผู้ให้เช่าจะแจ้งให้ผู้เช่าทราบล่วงหน้าเพื่อผู้เช่าเตรียมตัวออกจากทรัพย์สินที่เช่าเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสองเดือน และผู้ให้เช่าจะต้องแจ้งให้ผู้เช่าทราบด้วยว่าจะตกลงขายแก่ผู้ใดเป็นเงินเท่าใดเพื่อผู้เช่าจะได้มีโอกาสตกลงซื้อได้ก่อนในเมื่อเห็นว่าสมควร
ข้อ 13. ทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจในข้อสัญญานี้โดยตลอดแล้ว จึงได้ลงลายมือไว้เป็นหลักฐาน


ลงชื่อ………………………………………ผู้เช่า
(…………..…………………………)

ลงชื่อ………………………………………ผู้ให้ช่า
(………………………………………)

ลงชื่อ………………………………………พยาน
(………………………………………)

ลงชื่อ………………………………………พยาน
(…………..…………………………)

สัญญาเช่าบ้าน

สัญญาเช่าบ้าน

สัญญานี้ทำที่............................วันที่................เดือน..............................พ.ศ. ...................
ระหว่าง...............................................................อายุ...............ปี อยู่ที่..........................................
ตรอก/ซอย...................................ถนน.................................ตำบล/แขวง.......................................
อำเภอ/เขต.....................................จังหวัด........................................ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า
“ผู้ให้เช่า” ฝ่ายหนึ่งกับ.................................................... อายุ...............ปี อยู่ที่..............................
ตรอก/ซอย...................................ถนน.................................ตำบล/แขวง.......................................
อำเภอ/เขต.....................................จังหวัด........................................ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า
“ผู้เช่า” อีกฝ่ายหนึ่ง
ทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญากันไว้มีข้อความดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ผู้ให้เช่าตกลงให้เช่าและผู้เช่าตกลงรับเช่าบ้านเลขที่....................ซึ่งอยู่ที่ถนน..............
ตรอกหรือซอย.............................ตำบล/แขวง................................อำเภอ/เขต................................
จังหวัด..................................ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “ทรัพย์สิน” มีกำหนดเวลา..................ปี
(..............................) เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย นับตั้งแต่วันที่.............เดือน........................พ.ศ. ..........
ถึงวันที่............เดือน......................พ.ศ. ..........และผู้เช่ายอมเสียค่าเช่าให้เดือนละ....................บาท
(.....................................) โดยผู้เช่าจะนำค่าเช่าไปชำระแก่ผู้ให้เช่า ณ ภูมิลำเนาของผู้ให้เช่า
ข้อ ๒ เพื่อเป็นประกันในการปฏิบัติตามสัญญาเช่า ผู้เช่าตกลงมอบเงินประกันการเช่าจำนวน
.................................บาท (..............................................) ให้แก่ผู้เช่า และผู้ให้เช่าได้รับเงินจำนวนดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้วในวันทำสัญญาฉบับนี้ ถ้าผู้เช่าเช่าครบกำหนดตามสัญญา ผู้ให้เช่าจะคืนเงินประกันให้หลังจากที่ได้หักเป็นค่าใช้จ่ายหรือค่าเสียหายอย่างใดๆ อันเกิดขึ้นแก่ทรัพย์สินที่เช่าแล้ว
ข้อ ๓ ผู้เช่าสัญญาว่า
(๑) จะชำระค่าเช่าล่วงหน้าภายในวันที่.................ของเดือนทุกๆ เดือนไป
(๒) จะเป็นผู้ชำระค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ ของบ้านหลังที่เช่าเอง และนำใบเสร็จการชำระเงินมามอบให้ผู้ให้เช่าในวันชำระค่าเช่าของทุกเดือน
(๓) จะเป็นผู้รับภาระชำระค่าภาษีโรงเรือนและที่ดิน
(๔) เมื่อผู้เช่าประสงค์จะดัดแปลงหรือก่อสร้างเพิ่มเติมทรัพย์สินที่เช่านี้จะต้องเสนอแบบแปลนและรายการให้ผู้ให้เช่าพิจารณา เมื่อผู้ให้เช่าให้ความยินยอมเป็นหนังสือแล้ว จึงจะทำได้
บรรดาสิ่งที่ผู้เช่านำมาติดตั้งในทรัพย์สินที่เช่า ถ้ามีลักษณะเป็นสิ่งติดตึงกับตัวอาคาร หรือ
ที่ดินบริเวณทรัพย์สินที่เช่าแล้ว ผู้เช่าจะขุดหรือรื้อถอนไปไม่ได้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า
(๕) ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่าหรือตัวแทนของผู้ให้เช่าไปตรวจทรัพย์สินที่เช่าได้เสมอ
(๖) ถ้าผู้เช่าจะทำประกันอัคคีภัยอย่างใดในทรัพย์สินที่เช่า ผู้เช่าต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่าจึงจะทำได้
(๗) ผู้เช่าจะสงวนรักษาอาคารและส่วนประกอบรวมทั้งอุปกรณ์ทั้งหลาย และเครื่องตกแต่งอาคารและสถานที่เช่าให้อยู่ในสภาพอันบำรุงรักษาอย่างดีตามควรแก่สภาพสิ่งของนั้นๆ และจะทำการซ่อมแซมเล็กน้อยตามที่จำเป็นเพื่อการสงวนรักษาทรัพย์สินดังกล่าวนั้นด้วย
(๘) ผู้เช่าจะไม่ให้เช่าช่วง และไม่ยอมให้บุคคลอื่นนอกจากบุคคลในครอบครัวของผู้เช่าเข้าอยู่ในทรัพย์สินและที่ดินบริเวณทรัพย์สินที่เช่า
(๙) ผู้เช่าจะไม่โอนสิทธิการเช่าของตนซึ่งมีอยู่เหนือทรัพย์สินที่เช่า ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนให้แก่บุคคลอื่น
(๑๐) ผู้เช่าจะไม่ประพฤติและกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเป็นที่รำคาญแก่เพื่อนบ้านใกล้เคียงหรือกระทำสิ่งที่น่าจะเป็นอันตรายแก่สถานที่เช่าหรืออาจเป็นอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้หนึ่งผู้ใดที่อยู่ใกล้เคียง และจะไม่กระทำหรือให้ผู้อื่นกระทำการอันผิดกฎหมายในสถานที่เช่านี้
(๑๑) ผู้เช่าจะเป็นผู้รับผิดในบรรดาความเสียหาย หรือบุบสลายใดๆ อันเกิดขึ้นแก่ทรัพย์สินที่เช่าเพราะความผิดของผู้เช่าหรือบุคคลในครอบครัวของผู้เช่า
ข้อ ๓ ผู้ให้เช่าสัญญาว่า
(๑) จะออกใบรับเงินค่าเช่าทุกคราวที่รับชำระค่าเช่า
(๒) จะทำการซ่อมแซมทรัพย์สินที่เช่าตามหน้าที่ของผู้ให้เช่า เว้นแต่การซ่อมแซมเล็กน้อย เพื่อสงวนรักษาทรัพย์สินอันเป็นหน้าที่ของผู้เช่าดังกล่าวในข้อสอง (๗)
ข้อ ๔ ถ้าผู้เช่าไม่ปฏิบัติตามสัญญาเช่านี้ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าได้ทันที นอกจากนี้ถ้าผู้เช่าถูกศาลสั่งยึดทรัพย์ ให้ถือว่าสัญญานี้เป็นอันเลิกกันทันที โดยผู้ให้เช่าไม่ต้องบอกเลิก
ข้อ ๕ เมื่อสัญญาเช่าระงับสิ้นไปไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม ผู้ให้เช่ามีสิทธิเข้าครอบครอง
ทรัพย์สินที่เช่า โดยถือว่าผู้เช่าและบริวารยินยอมออกจากทรัพย์สินที่เช่า ทั้งนี้โดยผู้ให้เช่ามีสิทธิขนย้ายทรัพย์สินของผู้เช่าและบุคคลในครอบครัวของผู้เช่าออกจากทรัพย์สินที่เช่า รวมทั้งปิดประตูใส่กุญแจทรัพย์สินที่เช่าได้ทันที และผู้เช่าตกลงจะเป็นผู้รับผิดชอบในค่าใช้จ่ายและความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการดังกล่าวเพียงผู้เดียว
ข้อ ๖ ในวันทำสัญญานี้ผู้เช่าได้ตรวจตราทรัพย์สินที่เช่าแล้ว เห็นว่ามีสภาพดีและเป็นปกติดีทุกประการ และผู้ให้เช่าได้ส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าให้แก่ผู้เช่าแล้ว
สัญญานี้ทำขึ้นสองฉบับ มีข้อความตรงกัน คู่สัญญาได้อ่านและเข้าใจข้อความในสัญญานี้โดยตลอดแล้ว จึงลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยานและยึดถือไว้ฝ่ายละฉบับ
ลงชื่อ..........................................ผู้ให้เช่า
(..........................................)
ลงชื่อ..............................................ผู้เช่า
(..........................................)
ลงชื่อ............................................พยาน
(..........................................)
ลงชื่อ............................................พยาน
(..........................................)

สัญญาเช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง (ฉบับผู้ให้เช่า กำหนดระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี)

สัญญาเช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง
(ฉบับผู้ให้เช่า กำหนดระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี)

สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นที่………………………………………………………เมื่อวันที่.........เดือน ........................ พ.ศ............ ระหว่าง

ก. นาย/นาง/นางสาว/บริษัท……………………………………….จำกัด โดยผู้มีอำนาจลงนามท้ายสัญญา อายุ.........ปี อยู่บ้านเลขที่/สำนักงานเลขที่…………………………………..
……………………………………………………. ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า "ผู้ให้เช่า" ฝ่ายหนึ่ง กับ

ข. นาย/นาง/นางสาว/บริษัท ............................................................จำกัด โดยผู้มีอำนาจลงนามท้ายสัญญา อายุ.........ปี อยู่บ้านเลขที่/สำนักงานเลขที่ .........................................................
……………………………………………………..ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า "ผู้เช่า" อีกฝ่ายหนึ่ง

ทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญากัน ดังมีข้อความต่อไปนี้

ข้อ 1. วัตถุประสงค์แห่งสัญญา
ผู้ให้เช่าตกลงให้เช่าและผู้เช่าตกลงเช่าที่ดินโฉนดเลขที่.............……..เลขที่ดิน...................ตำบล...............………..อำเภอ…………................จังหวัด.............................พร้อมสิ่งปลูกสร้างบนโฉนดที่ดินดังกล่าวเป็น............................................................เลขที่………………. จำนวน……………หลัง เพื่อใช้ประกอบกิจการ............................................................................
รายละเอียดปรากฏตามสำเนาภาพถ่ายโฉนดที่ดินและสำเนาทะเบียนบ้านแนบท้ายสัญญา ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้ ซึ่งต่อไปจะรวมเรียกว่า "สถานที่เช่า"

ข้อ 2. กำหนดระยะเวลาแห่งสัญญา
ทั้งสองฝ่ายตกลงให้สัญญานี้มีกำหนดระยะเวลาการเช่า………..ปี นับแต่วันที่…………เดือน………………………………พ.ศ. ………………… ถึง วันที่…………เดือน………………………………พ.ศ. …………………
ก่อนครบกำหนดระยะเวลาการเช่าตามสัญญานี้ หากผู้เช่ามีความประสงค์จะเช่าสถานที่เช่าอีกต่อไป ผู้เช่าจะต้องแจ้งความประสงค์ดังกล่าวเป็นหนังสือไปยังผู้ให้เช่าทราบล่วงหน้าภายใน 30 วันก่อนวันสิ้นสุดอายุของสัญญา โดยทั้งสองฝ่ายจะตกลงหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และอัตราค่าเช่าที่ระบุในสัญญานี้ รวมทั้งทำสัญญาเช่ากันใหม่
ข้อ 3. ค่าเช่าและการชำระค่าเช่า
ผู้เช่าตกลงชำระค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่าเป็นรายเดือน ในอัตราเดือนละ.......................................บาท(..................................................) โดยชำระ ณ ที่ทำการของผู้ให้เช่า หรือสถานที่ที่ผู้ให้เช่ากำหนดภายใน………..วัน นับแต่วันที่ผู้เช่าได้รับใบแจ้งหนี้จากผู้ให้เช่า เริ่มชำระค่าเช่าครั้งแรกในวันที่.............เดือน......................................พ.ศ.............................
ทั้งนี้ ผู้เช่าตกลงเป็นผู้รับผิดชอบภาระในบรรดาค่าภาษีภาษีโรงเรือนและ ที่ดิน และภาษีอื่นใดที่เกิดจากการใช้สถานที่เช่าตามสัญญานี้เองทั้งสิ้น

ข้อ 4. ข้อรับรองของผู้ให้เช่า
ผู้ให้เช่าตกลงและรับรองว่า ผู้ให้เช่าเป็นผู้ทรงสิทธิในสถานที่เช่าแต่เพียงผู้เดียว และรับรองว่าสถานที่เช่าปราศจากการรอนสิทธิหรือการกล่าวอ้างสิทธิของบุคคลอื่นในสถานที่เช่าอย่างเด็ดขาด อีกทั้งผู้ให้เช่าตกลงว่า หากปรากฏว่ามีบุคคลใดมากล่าวอ้างสิทธิเหนือสถานที่เช่าไม่ว่ากรณีใด ๆ ผู้ให้เช่าตกลงจะดำเนินการแก้ไขเหตุดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน………….วัน นับแต่วันที่ทราบเหตุดังกล่าว

ข้อ 5. ข้อรับรองของผู้เช่า
ผู้เช่าสัญญาและทราบดีว่า ผู้เช่าจะ
5.1 ดูแลรักษาสถานที่เช่าให้อยู่ในสภาพดีและใช้สถานที่เช่าด้วยความระมัดระวัง หากเกิดความเสียหายหรือสูญหายอันเนื่องจากการจงใจหรือความประมาทเลินเล่อของผู้เช่า บริวาร ลูกจ้างหรือลูกค้าของผู้เช่า ไม่ว่าเป็นกรณีใด ๆ ก็ตาม ผู้เช่ารับจะเป็นผู้จัดการซ่อมแซมหรือจัดหามาแทนโดยให้มีสภาพดีตามสมควรตลอดกำหนดระยะการเช่าด้วยค่าใช้จ่ายของผู้เช่าเอง
5.2 ไม่นำวัสดุหรือสิ่งของที่เป็นอันตรายหรือผิดกฎหมายใด ๆ เข้ามาในสถานที่เช่าอย่างเด็ดขาด หรือกระทำการใดๆอันเป็นการผิดกฎหมาย หรือศีลธรรมอันดีในสถานที่เช่าอย่างเด็ดขาด
5.3 ตกลงยินยอมให้ผู้ให้เช่าหรือตัวแทนของผู้ให้เช่ามีสิทธิเข้าตรวจตราสถานที่เช่าได้ตามสมควรตลอดเวลาทำการของผู้เช่า โดยผู้ให้เช่าจะต้องแจ้งให้ผู้เช่าทราบล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นคราว ๆ ไป
5.4 ไม่โอนสิทธิการเช่าหรือให้เช่าช่วงไม่ว่าทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดให้แก่บุคคลอื่น โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน
5.5 ดูแลรักษาสถานที่เช่า ตลอดจนสิ่งที่ติดตั้งต่าง ๆ ในสถานที่เช่าให้อยู่ในสภาพดีตลอดระยะเวลาของสัญญานี้ หากเกิดความเสียหายหรือสูญหายใด ๆ ผู้เช่าจะต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบทันที และหากความเสียหายดังกล่าวเกิดจากความผิดของผู้เช่า บริวาร หรือลูกจ้างของผู้เช่า ผู้เช่าจะต้องซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพดีภายใน 15 วัน นับแต่วันเกิดความเสียหาย ด้วยค่าใช้จ่ายของผู้เช่าเอง เว้นแต่เป็นการชำรุดเสียหายตามธรรมชาติ หรือตามสภาพซึ่งมิได้เกิดจากความผิดหรือการละเลยไม่เอาใจใส่ของผู้เช่าหรือลูกจ้างของผู้เช่า
5.6 ต้องนำเสนอแบบแปลนแผนผัง และได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่าก่อนที่จะตกแต่ง ต่อเติมสถานที่เช่าก่อนทุกครั้ง หากผู้เช่าประสงค์จะตกแต่ง ต่อเติม แก้ไข หรือปรับปรุงสถานที่เช่า และเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดลง หากผู้เช่าไม่รื้อถอนออกไป ส่วนที่ได้ตกแต่งต่อเติมนั้นจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าทันที เว้นแต่ผู้ให้เช่าไม่ประสงค์จะถือเอากรรมสิทธิ์ ผู้เช่าจะต้องรื้อถอนออกไปด้วยค่าใช้จ่ายของผู้เช่าเอง
5.7 รับผิดชอบบรรดาค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่เกิดจากการใช้สถานที่เช่าเองทั้งสิ้น
5.8 รักษาสภาพแวดล้อมภายในสถานที่เช่า และบริเวณใกล้เคียงสถานที่เช่าให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด โดยจะไม่ทิ้งสิ่งปฏิกูลใดๆลงในแม่น้ำ (ถ้ามี) และจะไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ หรือมลพิษใดๆให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญให้กับบุคคลผู้อยู่ในบริเวณใกล้เคียงอย่างเด็ดขาด

ข้อ 6. หลักประกัน
เพื่อเป็นการประกันการปฏิบัติตามสัญญา ผู้เช่าตกลงวางเงินประกันเท่ากับอัตราค่าเช่า…………..เดือน คิดเป็นเงินจำนวน...................... บาท (..................................) ให้แก่ผู้ให้เช่ายึดถือไว้ในวันทำสัญญานี้ หากผู้เช่าผิดนัดผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด ผู้ให้เช่ามีสิทธิริบ หรือหักเงินประกันดังกล่าวเพื่อนำมาชดใช้ค่าเสียหายได้ทันที หากผู้ให้เช่าหักเงินประกันไปจำนวนเท่าใด และผู้ให้เช่าได้แจ้งให้ผู้เช่าทราบแล้ว ผู้เช่าจะต้องนำเงินประกันมาวางเพิ่มเติมให้ครบตามจำนวนเดิม ภายใน……..วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากผู้ให้เช่า
ในกรณีที่สัญญานี้สิ้นสุดลง หากปรากฏว่า ผู้เช่าดำเนินการใด ๆ อันก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ให้เช่า ผู้ให้เช่าจะคืนเงินประกันให้กับผู้เช่าหลังจากที่หักค่าเสียหายไว้แล้ว หรือหากผู้เช่าไม่ได้ดำเนินการใด ๆ อันก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ให้เช่า ผู้ให้เช่าจะคืนเงินประกันให้กับผู้เช่าโดยไม่มีดอกเบี้ยภายใน 15 วัน นับแต่วันที่สัญญาสิ้นสุดลง

ข้อ 7. การผิดนัดผิดสัญญา
7.1หากคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดนัดผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด ให้อีกฝ่ายมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและเรียกค่าเสียหายได้ทันที
7.2 ในกรณีที่สัญญาเช่าสิ้นสุดลงไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม ผู้เช่าจะต้องส่งมอบสถานที่เช่าคืนให้กับผู้ให้เช่าในสภาพเรียบร้อยทันที หากผู้เช่าเพิกเฉย ผู้ให้เช่ามีสิทธิเรียกเบี้ยปรับในอัตราวันละ...........บาท (..............................................................)จนกว่าผู้เช่าจะส่งมอบสถานที่เช่าในสภาพเรียบร้อยให้กับผู้ให้เช่า หรือผู้ให้เช่ามีสิทธิกลับเข้าครอบครองสถานที่เช่าโดยพลัน และมีสิ่งทำลายสิ่งขีดขวาง ขนย้ายทรัพย์สิน และหรือบริวารออกจากสถานที่เช่า รวมทั้งนำไปจัดเก็บไว้ในสถานที่ที่ผู้ให้เช่าเห็นว่า เหมาะสม ซึ่งผู้เช่าตกลงสละสิทธิเรียกร้องทางแพ่งและทางอาญากับผู้ให้เช่าทั้งสิ้น

ข้อ 8. ข้อตกลงอื่น ๆ
8.1 ในกรณีที่คู่สัญญามีสิทธิคิดดอกเบี้ยต่อกัน ทั้งสองฝ่ายตกลงให้ใช้อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี บังคับระหว่างกัน
8.2 การผ่อนผัน ผ่อนเวลา หรือละเว้นการใช้สิทธิใด ๆ ของผู้ให้เช่าต่อ ผู้เช่าตามสัญญานี้ ไม่ถือว่า ผู้ให้เช่าสละสิทธิประโยชน์นั้นต่อผู้เช่าแต่อย่างใด
8.3 การบอกกล่าวทวงถาม หรือส่งเอกสารใด ๆ อันพึงมีไปยังคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งตามภูมิลำเนาที่ปรากฏในสัญญานี้ หรือผู้ให้เช่าส่งให้กับผู้เช่า ณ สถานที่เช่า ให้ถือว่าเป็นการส่งโดยชอบ และคู่สัญญาอีกฝ่ายได้ทราบแล้วในวันที่คำบอกกล่าวหรือเอกสารนั้น ๆ พึงไปถึงตามปกติ






สัญญานี้ทำขึ้นเป็นสองฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน ทั้งสองฝ่ายได้ทราบและเข้าใจข้อความโดยตลอดดีแล้ว เห็นว่าถูกต้องตรงตามเจตนาของตน จึงได้ลงลายมือชื่อพร้อมประทับตรา (ถ้ามี) ไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน และต่างยึดถือไว้ฝ่ายละฉบับ
ในนาม บริษัท……………………………………………จำกัด

ลงชื่อ........................................................ ผู้ให้เช่า
( )
ในนาม บริษัท……………………………………………จำกัด

ลงชื่อ......................................................... ผู้เช่า
( )


ลงชื่อ..........................................................พยาน
( )

ลงชื่อ..........................................................พยาน
( )

หนังสือสัญญาเช่าที่ดิน

หนังสือสัญญาเช่าที่ดิน ฉบับที่……….

เขียนที่……………………………………..
วันที่………..เดือน…………………พ.ศ.25…………

ข้าพเจ้า………………………………………………………………ผู้เช่า อายุ………………….ปี
บ้านเลขที่………………..………ตำบล………………………อำเภอ………………จังหวัด………………... ขอทำหนังสือสัญญาเช่าที่ดินให้ไว้แก่………………………………ผู้ให้เช่าหนึ่งฉบับ ดังมีข้อสัญญาต่อไปนี้
ข้อ 1. ผู้เช่าขอเช่าที่ดินของผู้ให้เช่าเพื่อ…………………………………….….เป็นจำนวนที่ดิน
ประมาณ………………ไร่………………งาน………………….วา มีโฉนดหมายเลยที่……………………...
ถนน/ซอย……………………………..ตำบล…………………………อำเภอ………………………………..
จังหวัด…………………….มีกำหนด……………….ปี ตั้งแต่วันที่ ………….เดือน………………………พ.ศ.25……………….ถึงวันที่………….เดือน……………………พ.ศ. 25…………….ผู้เช่ายอมให้ค่าเช่า ……………………..ละ……………………….บาท……………….สตางค์ ( )
รวมค่าเช่า………….เป็นเงินรวมทั้งสิ้น……………..บาท……………สตางค์ ( )
ข้อ 2 ผู้เช่ายอมชำระค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่า……………ละ………………..ครั้ง ส่วนเงินค่าภาษีทุกอย่างสำหรับที่เช่านี้………………………………………………………จะเป็นผู้เสีย
ข้อ 3. ผู้เช่าขอให้สัญญาว่า จะไม่ขุดคู, คลองหรือบ่อ ฯลฯ ในที่ดินขอผู้ให้เช่าให้เสียหาย เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน
ข้อ 4. ผู้เช่ายอมสัญญาว่า จะไม่เอาที่ดินที่เช่านี้ไปให้ผู้อื่นเช่าช่วงหรือโอนให้ผู้อื่นเช่าต่อไปและจะไม่ยอมให้ผู้ใดอยู่อาศัย เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน
ข้อ 5. ผู้เช่ายอมสัญญาว่าจะยอมให้ผู้เช่าหรือผู้แทนเข้าไปตรวจตราในที่ดินที่เช่านี้ได้ทุกเวลา
ข้อ 6. ถ้าผู้ให้เช่าตกลงขายทรัพย์สินที่เช่าให้แก่ผู้ใดก่อนครบกำหนดการตามสัญญาแล้ว ผู้ให้เช่าจะแจ้งให้ผู้เช่าทราบล่วงหน้า เพื่อผู้เช่าเตรียมตัวออกจากทรัพย์สินที่เช่าเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสองเดือนและผู้ให้เช่าจะต้องแจ้งให้ผู้เช่าทราบด้วยว่าจะตกลงขายให้แก่ผู้ใด เป็นเงินเท่าใดเพื่อผู้เช่าจะได้มีโอกาสตกลงซื้อได้ก่อนในเมื่อเห็นว่าเป็นราคาสมควร ถ้าผู้เช่าออกไปจากที่ดินไม่ว่ากรณีใดๆ ผู้เช่าจะเรียกค่าเสียหายหรือค่ารื้อถอนจากผู้ให้เช่าไม่ได้
ข้อ 7. ถ้าผู้เช่าประพฤติผิดข้อสัญญานี้ แต่ข้อหนึ่งข้อใดก็ดี ผุ้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่าทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะเข้ายึดครอบครองที่เช่าโดยพลันและมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าทันทีโดยผู้เช่ายอมให้ถือว่าสัญญาเช่าระงับไป
ข้อ 8. เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าก็ดี หรือผู้เช่าผิดสัญญาข้อใดก็ดี ผู้เช่ายอมให้ถือว่าสัญญาเช่าระงับสิ้นสุดลง
ข้อ 9. ผู้เช่าและผู้ให้เช่าได้ทราบข้อความตามสัญญานี้ตลอดแล้วเพื่อเป็นหลักฐานจึงได้ลงลายมือชื่อให้ไว้เป็นสำคัญ


ลงชื่อ………………………………………ผู้เช่า
(…………..…………………………)

ลงชื่อ………………………………………ผู้ให้เช่า
(………………………………………)

ลงชื่อ………………………………………พยาน
(………………………………………)

ลงชื่อ………………………………………พยาน
(…………..…………………………)

งชื่อ………………………………………พยาน
(…………..…………………………)

สัญญาเช่าที่ดิน

สัญญาเช่าที่ดิน

สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นที่บ้านเลขที่....................ถนน.....................แขวง/ตำบล........................เขต/อำเภอ............................จังหวัด......................................เมื่อวันที่...........................................
ระหว่าง......................................อายุ........ปี อยู่บ้านเลขที่......................ถนน...................
แขวง/ตำบล.............................. เขต/อำเภอ............................จังหวัด.............................................
ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ให้เช่า” ฝ่ายหนึ่ง
กับ............................................ อายุ........ปี อยู่บ้านเลขที่......................ถนน...................
แขวง/ตำบล.............................. เขต/อำเภอ............................จังหวัด.............................................
ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้เช่า” อีกฝ่ายหนึ่ง
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญาเช่าที่ดินกันมีข้อความดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ผู้ให้เช่าตกลงให้เช่าและผู้เช่าตกลงเช่าที่ดินของผู้ให้เช่าเป็นจำนวนเนื้อที่..................ไร่
..........งาน..........ตารางวา ตามโฉนดเลขที่.............ตำบล...............อำเภอ.............จังหวัด..............
......................เพื่อ..................................................ในอัตราค่าเช่าเดือนละ..............................บาท
(...........................................................)
ข้อ ๒ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงเช่าที่ดินกันมีกำหนดเวลา..............ปี นับแต่วันที่.................
ถึงวันที่.............................
ข้อ ๓ ผู้เช่าตกลงชำระค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่าเป็นรายเดือน และจะชำระค่าเช่าให้เป็นการล่วงหน้าภายในวันที่....................ของเดือนทุกๆ เดือน
ข้อ ๔ ผู้เช่าตกลงจะนำค่าเช่าไปชำระแก่ผู้ให้เช่า ณ ภูมิลำเนาของผู้ให้เช่า
ข้อ ๕ ผู้เช่าตกลงเป็นผู้ชำระค่าภาษีที่ดินแทนผู้ให้เช่า
ข้อ ๖ ผู้เช่าตกลงว่าจะไม่ใช้ที่ดินที่เช่าเพื่อการอย่างอื่นนอกจากการตามที่ระบุไว้ในสัญญาข้อ ๑ เว้นแต่จะได้รับอนุญาติเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า
ข้อ ๗ ผู้เช่าตกลงว่าจะไม่ขุดบ่อ คู หรือทำด้วยประการใดๆ ซึ่งทำให้ที่ดินของผู้ให้เช่าเสียหายเว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า
ข้อ ๘ ผู้เช่าตกลงว่าจะไม่นำที่ดินที่เช่านี้ไปให้ผู้อื่นเช่าช่วงหนือโอนสิทธิการเช่าตามสัญญานี้ให้แก่ผู้อื่น เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า
ข้อ ๙ ผู้เช่าตกลงว่าจะอำนวยความสะดวกให้ผู้ให้เช่าหรือตัวแทนของผู้ให้เช่าตรวจตราที่ดินที่เช่าทุกครั้งทุกครั้งไป
ข้อ ๑๐ ถ้าผู้ให้เช่าตกลงจะขายที่ดินที่เช่าก่อนครบกำหนดการเช่าตามสัญญานี้ ผู้ให้เช่าจะต้องแจ้งให้ผู้เช่าทราบล่วงหน้าเป็นเวลาไม่น้อยกว่า..............เดือน ว่าจะขายในราคาเท่าใดเพื่อผู้เช่าจะได้มีโอกาสตกลงได้ซื้อก่อนหรือเพื่อผู้เช่าเตรียมตัวออกจากที่ดินที่เช่า
ข้อ ๑๑ ในกรณีที่ผู้เช่าผิดสัญญาเช่าข้อหนึ่งข้อใดหรือหลายข้อรวมกันก็ดี ผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกกล่าวให้ผู้เช่าปฏิบัติตามสัญญานี้ หรือบอกเลิกสัญญานี้และเรียกค่าเสียหายจากผู้เช่าได้ทันที
ข้อ ๑๒ ถ้าผู้เช่าจะต้องออกไปจากที่ดินที่เช่าไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ผู้เช่าไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายหรือค่ารื้อถอนจากผู้ให้เช่า
ข้อ ๑๓ ในวันทำสัญญาเช่านี้ ผู้เช่าได้ตรวจดูที่ดินที่เช่าแล้วเห็นว่ามีสภาพปกติ และผู้ให้เช่าได้ส่งมอบที่ดินที่เช่าแก่ผู้เช่าแล้ว

สัญญานี้ทำขึ้นเป็นสองฉบับมีข้อความถูกต้องตรงกันคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่าน และเข้าใจข้อความในสัญญานี้โดยตลอดแล้ว เห็นว่าถูกต้องตามเจตนาอันแท้จริงของคู่สัญญา จึงลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน และต่างยึดถือไว้ฝ่ายละฉบับ
ลงชื่อ..........................................ผู้ให้เช่า
(..........................................)
ลงชื่อ..............................................ผู้เช่า
(..........................................)
ลงชื่อ............................................พยาน
(..........................................)
ลงชื่อ............................................พยาน
(..........................................)

สัญญากู้ยืมเงินทั่วไป ( แบบไม่มีหลักประกัน )

สัญญากู้ยืมเงินทั่วไป
( แบบไม่มีหลักประกัน )

ทำที่..............................................................................
วันที่.................เดือน.................................พ.ศ.....................
ข้าพเจ้า..........................อายุ...................ปี อยู่บ้านเลขที่.....................ตรอก / ซอย...............ถนน.....................ตำบล / แขวง........................อำเภอ / เขต.........................จังหวัด...........................
ในฐานะ “ผู้กู้” ฝ่ายหนึ่ง กับ
ข้าพเจ้า..........................อายุ...................ปี อยู่บ้านเลขที่.....................ตรอก / ซอย...............ถนน.....................ตำบล / แขวง........................อำเภอ / เขต.........................จังหวัด...........................
ในฐานะ “ผู้ให้กู้” อีกฝ่ายหนึ่ง
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญาดังความต่อ ไปนี้
ข้อ 1. ผู้กู้ตกลงกู้เงินและผู้ให้กู้ตกลงให้กู้เงินจำนวน..................บาท (.................................)และผู้กู้ได้รับเงินจำนวนดังกล่าวไปเรียนร้อยแล้วตั้งแต่เวลาที่ทำสัญญาฉบับนี้
ข้อ 2. ผู้กู้ตกลงยิงยอมชำระดอกเบี้ยให้กู้ในอัตราร้อยละ.......................ต่อปี นับตั้งแต่วันที่....................จนถึงวันที่ชำระเสร็จสิ้นรวมเป็นเงินทั้งสิ้น......................บาท (..............................)
ข้อ 3. ผู้กู้ตกลงชำระเงินต้นคืนในวันที่......................................ส่วนดอกเบี้ยนั้นผู้กู้จะชำระให้แก่ผู้ให้กู้ภายในวันที่......................................ของทุกทุก ๆ เดือน จนกว่าจำชระเงินต้นเสร็จ
ข้อ 4. หากผู้กู้ปฏิบัติผิดนัดผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่งแล้ว ผู้ให้กู้สัญญาบอกเลิกสัญญาและทำการเรียกเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืนได้ทันที

ลงชื่อ.................................................ผู้กู้ ลงชื่อ.................................................ผู้ให้กู้
(.................................................) (................................................)

ลงชื่อ.................................................พยาน ลงชื่อ.................................................พยาน
(.................................................) (................................................)

ข้อสังเกต หากกรณีเป็นการผ่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ไขข้อความในข้อ 3) “ผู้กู้ตกลงทำการชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเป็นรายเดือนในอัตราเดือนละ.........................บาท (...............................................) ทุกวันที่.......................ของเดือน โดยเริ่มตั้งแต่เดือน..................เป็นต้นไป จนเสร็จสิ้น รวมทั้งสิ้น................................เดือน”

สัญญากู้ยืมเงิน (มีทรัพย์สินวางเป็นประกัน)

สัญญากู้ยืมเงิน
(มีทรัพย์สินวางเป็นประกัน)


ทำที่.......................................................
วันที่................เดือน..................................พ.ศ..................

สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง........................................อายุ..........ปี อยู่บ้านเลขที่................
ตรอก/ซอย..............................ถนน...................................ตำบล/แขวง..............................อำเภอ/เขต
...................................จังหวัด..............…...................ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “ผู้กู้” ฝ่ายหนึ่ง
กับ................................................อายุ........ปี อยู่บ้านเลขที่...............ตรอก/ซอย................................
ถนน......................……......ตำบล/แขวง.....……................อำเภอ/เขต............………..........จังหวัด........................………..ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “ผู้ให้กู้” อีกฝ่ายหนึ่ง
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้ตกลงทำสัญญากันดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ผู้กู้ตกลงกู้เงินจากผู้ให้กู้และผู้ให้กู้ตกลงให้ผู้กู้ กู้เงินเป็นจำนวน........................บาท
(.........................................................) โดยผู้กู้ได้รับเงินจำนวนดังกล่าว จากผู้ให้กู้ครบถ้วนในวันทำสัญญาแล้ว

ข้อ ๒ ผู้กู้ตกลงจะชำระดอกเบี้ยเงินกู้ดังกล่าวในข้อ ๑ ให้แก่ผู้ให้กู้ในอัตราร้อยละ............
ต่อปี และต่อไปหากผู้ให้กู้ประสงค์จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ซึ่งไม่เกินไปกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดแล้ว ผู้กู้ยินยอมให้ผู้ให้กู้เพิ่มอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวได้โดยจะไม่โต้แย้งประการใดทั้งสิ้น และให้มีผลบังคับทันทีเมื่อผู้ให้กู้แจ้งอัตราดอกเบี้ย ที่กำหนดขึ้นใหม่ให้ผู้กู้ทราบแล้ว

ข้อ ๓ ผู้กู้สัญญาว่าจะนำเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยดังกล่าวข้างต้น ไปชำระคืนให้แก่ผู้ให้กู้จนครบถ้วนภายในวันที่..........เดือน.........................พ.ศ.............โดยชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืนแก่ผู้ให้กู้เป็นจำนวน..............งวด งวดแรกชำระในวันที่............เดือน.........................พ.ศ.............จำนวน
..................บาท งวดที่เหลือ ชำระในวันที่...........เดือน....................พ.ศ............จำนวน..............บาท

ข้อ ๔ เพื่อเป็นหลักประกันในการปฏิบัติตามสัญญานี้ ผู้กู้ได้มอบ......................................
.............................................................................................................................................................ให้แก่ผู้ให้กู้ เพื่อยึดถือไว้เป็นหลักประกันในการชำระหนี้ตามสัญญานี้ และผู้กู้ขอรับรองว่าทรัพย์สินที่นำมาวางเป็นประกันนี้ เป็นกรรมสิทธิ์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้กู้เพียงผู้เดียว และปราศจากภาระผูกพันใด ๆ

ข้อ ๕ ผู้ให้กู้ไม่ต้องรับผิดในความชำรุด บุบสลาย สูญหาย วินาศภัย หรือความเสียหายอย่างใด ๆ อันเกิดขึ้นแก่ทรัพย์สินซึ่งผู้กู้ได้นำมาให้ผู้ให้กู้ยึดถือไว้ตามสัญญาข้อ ๔ ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นเพราะความผิดของผู้ให้กู้หรือบุคคลอื่นใดที่ผู้ให้กู้มอบหมายให้ดูแลรักษาแทนหรือไม่ก็ตาม

ข้อ ๖ หากผู้กู้ไม่ปฏิบัติตามสัญญานี้ ผู้กู้ยินยอมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายบรรดาที่ผู้ให้กู้จะพึงได้รับจากการผิดสัญญาดังกล่าว รวมทั้งค่าใช้จ่ายทั้งปวงในการเตือน ทวงถาม เรียกร้องให้ชำระหนี้ตลอดจนค่าฤชาธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี และค่าทนายความในการดำเนินคดีบังคับให้ชำระหนี้ คืนให้แก่ผู้ให้กู้ด้วย

สัญญานี้จัดทำขึ้นเป็นสองฉบับมีข้อความถูกต้องตรงกัน คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจข้อความในสัญญานี้ดีแล้ว จึงได้ลงนามไว้เป็นหลักฐานต่อหน้าพยาน และต่างยึดถือไว้ฝ่ายละฉบับ


ลงชื่อ........................................................ผู้กู้
(..……...........................................)
ลงชื่อ........................................................ผู้ให้กู้
(.....……........................................)
ลงชื่อ.......................................................พยาน
(.……...........................................)
ลงชื่อ.......................................................พยาน
(...……..........................................)

สัญญากู้ยืมเงิน (จดทะเบียนจำนองทรัพย์สินเป็นประกัน)

ดาวน์โหลด

สัญญากู้ยืมเงิน

(จดทะเบียนจำนองทรัพย์สินเป็นประกัน)

ทำที่.........................................
วันที่........เดือน......................................
                สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง...............………………………………………....อายุ.......ปี อยู่บ้านเลขที่...............ซอย......................….......ถนน...........…..……....แขวง/ตำบล......………..เขต/อำเภอ...........….....จังหวัด.........…………...ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า ผู้กู้ฝ่ายหนึ่ง กับ......................…………………......อายุ.........ปี อยู่บ้านเลขที่..…......ซอย...........…..ถนน..........……....แขวง/ตำบล...........….........เขต/อำเภอ.....……..........จังหวัด.............................ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า ผู้ให้กู้อีกฝ่ายหนึ่ง

                คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญากันมีข้อความดังต่อไปนี้
                ข้อ ๑ ผู้กู้ตกลงกู้เงินจากผู้ให้กู้และผู้ให้กู้เงินตกลงให้ผู้กู้กู้เงินเป็นจำนวน......................บาท (..............................................) และผู้กู้ได้รับเงินจากผู้ให้กู้ไปถูกต้องครบถ้วนแล้วในวันทำสัญญานี้ โดยรับเป็นเงินสด/เช็คของธนาคาร....................................สาขา........….…....เช็คเลขที่..................ลงวันที่.....................จำนวนเงิน............................บาท (.....................................)
                ข้อ ๒ ผู้กู้ยอมเสียดอกเบี้ยให้แก่ผู้ให้กู้ในอัตราร้อยละ..........ต่อปี โดยกำหนดส่งดอกเบี้ยเป็นราบเดือน ๆ ละ...........................บาท (....................................) ภายในวันที่............................ของเดือนทุก ๆ เดือน
                ข้อ ๓ ผู้กู้ตกลงชำระเงินต้นคืนให้แก่ผู้ให้กู้ในวันที่.............................และในกรณีที่ผู้กู้ชำระเงินต้นคืนให้แก่ผู้ให้กู้ก่อนถึงกำหนดเวลาที่ได้กำหนดไว้ในสัญญาข้อนี้ ผู้ให้กู้จะคิดดอกเบี้ยจนถึงวันชำระต้นเงินคืนเท่านั้น
                ข้อ ๔ เพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญานี้ ผู้กู้ได้จดทะเบียนจำนองทรัพย์สิน* ให้ผู้กู้ยึดถือไว้เป็นประกัน จนกว่าผู้ให้กู้จะได้ชำระเงินต้นและดอกเบี้ยตามสัญญานี้โดยสิ้นเชิง
                ข้อ ๕ ค่าอากรแสตมป์ที่ใช้ปิดสัญญานี้ รวมทั้งค่าธรรมเนียมและค่าอากรในการจดทะเบียนเพื่อจำนองทรัพย์สินเป็นประกันหนี้ตามสัญญาข้อ ๔ และเพื่อไถ่ถอนทรัพย์สินดังกล่าว ผู้กู้เป็นผู้ออกฝ่ายเดียว
                ข้อ ๖ การติดต่อใด ๆ ระหว่างผู้ให้กู้กับผู้กู้นั้น ตกลงให้ถือว่าการบอกกล่าวหรือการแจ้งเป็นหนังสือไปยังสถานที่ที่ระบุไว้ว่าเป็นที่อยู่ของผู้กู้ข้างต้นนี้ โดยส่งเองหรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือไม่ลงทะเบียน ไม่ว่าจะถึงหรือไม่ถึงตัวผู้กู้ และไม่ว่าจะมีผู้ใดรับหรือไม่มีผู้ใดยอมรับไว้ก็ตาม หรือส่งให้ไม่ได้ เพราะผู้กู้ย้ายสถานที่อยู่ไปโดยมิได้แจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบ หรือสถานที่อยู่ให้ไว้ค้นหาไม่พบหรือถูกรื้อถอนทำลาย ทุกกรณีที่กล่าวนี้เป็นการบอกกล่าวหรือการแจ้งหรือหนังสือดังกล่าวเหล่านี้ได้ส่งไปให้แก่ผู้กู้ โดยชอบด้วยกฎหมาย
                สัญญานี้ทำขึ้นเป็นสองฉบับมีข้อความตรงกัน คู่สัญญาได้อ่านและเข้าใจข้อความในสัญญาโดยตลอดแล้วเห็นว่าถูกต้อง จึงลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน แล้วยึดถือไว้ฝ่ายละฉบับ

                           ลงชื่อ..........................……….....…ผู้กู้
                              (.............................................)
                                                                        ลงชื่อ..............................................คู่สมรสผู้ให้ความยินยอม
                                                                       (.........................….....….......)
                           ลงชื่อ..........................……….....…ผู้กู้
                                                                       (.............................................)
                                 ลงชื่อ.................................................พยาน
                                                                                    (..........................................)
                                 ลงชื่อ.................................................พยาน
                                                                         (..........................................)


* ทรัพย์สินที่จำนอง ได้แก่
(1)              อสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท
(2)              เรือกำปั่น หรือเรือมีระวางตั้งแต่หกตันขึ้นไป เรือกลไฟ หรือเรือยนต์ที่มีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป
(3)              แพ
(4)              สัตว์พาหนะ
(5)              เครื่องจักรซึ่งได้จดทะเบียนตาม พ... จดทะเบียนเครื่องจักร  พ.. ๒๕๑๔

สัญญากู้ยืมเงิน (มีบุคคลค้ำประกัน)

สัญญากู้ยืมเงิน
(มีบุคคลค้ำประกัน)


ทำที่..............................................
วันที่..............เดือน.............................พ.ศ...............

สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง..................................................อายุ.............ปี อยู่ที่................
ตรอก/ซอย..............................ถนน...................................ตำบล/แขวง..............................อำเภอ/เขต
...................................จังหวัด.................................ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “ผู้ให้กู้” ฝ่ายหนึ่ง
กับ.......................................................อายุ..............ปี อยู่ที่...............ตรอก/ซอย................................
ถนน..............................ตำบล/แขวง.....................อำเภอ/เขต........................จังหวัด..........................
ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้กู้” อีกฝ่ายหนึ่ง
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญากันดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ผู้ให้กู้ตกลงให้กู้และผู้กู้ตกลงกู้เงินจากผู้ให้กู้เป็นเงิน.........................................บาท
(.............................................) และผู้กู้ได้รับเงินจำนวนนี้ไปถูกต้องเรียบร้อยแล้ว
ข้อ ๒ ผู้กู้สัญญาว่าจะชำระดอกเบี้ยให้แก่ผู้ให้กู้ในอัตราร้อยละ..........บาทต่อปีคิดจำนวน
จากเงินต้นที่ยังค้างชำระ โดยจะนำดอกเบี้ยไปชำระให้แก่ผู้ให้กู้ ณ ภูมิลำเนาของผู้ให้กู้ หรือ ณ สถานที่ซึ่งผู้ให้กู้จะได้กำหนดขึ้น เป็นรายเดือน ๆ ละ.............................บาท ภายในวันที่.................
ของเดือนปฏิทินทุกเดือน จนกว่าจะได้ชำระเงินต้นเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว
ข้อ ๓ ผู้กู้สัญญาว่า จะผ่อนชำระเงินต้นให้แก่ผู้ให้กู้เป็นรายเดือน ๆ ละไม่ต่ำกว่า.....….....บาท (....................................................) และไม่ว่ากรณีจะเป็นเช่นไรก็ตามผู้กู้จะต้องชำระเงินที่กู้ให้
เสร็จสิ้นไปภายในวันที่ ...........เดือน................................พ.ศ..................
ข้อ ๔ เพื่อเป็นหลักประกันในการปฏิบัติตามสัญญานี้ ผู้กู้ได้จัดให้....................................
..............................................เข้าเป็นผู้ค้ำประกันการกู้ยืมเงินตามสัญญานี้
ข้อ ๕ ผู้กู้ให้สัญญาว่า ถ้าผู้กู้ย้ายสถานที่อยู่ไปจากสถานที่อยู่ที่ปรากฏในสัญญานี้ ผู้กู้จะ แจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบถึงสถานที่อยู่ใหม่ภายใน...........วัน นับแต่วันที่ผู้กู้ย้ายสถานที่อยู่
ข้อ ๖ ผู้กู้ให้สัญญาว่า ถ้าผู้กู้ไม่ปฏิบัติตามสัญญาไม่ว่าข้อใดข้อหนึ่ง ผู้ให้กู้มีสิทธิบอกเลิกสัญญา และเรียกร้องให้ผู้กู้ชำระเงินต้น และดอกเบี้ยที่ค้างชำระคืนให้แก่ผู้ให้กู้ทันที และผู้กู้ยินยอมชำระค่าเสียหายต่าง ๆ ในการเรียกร้องทวงถาม รวมทั้งค่าทนายความและค่าธรรมเนียมในการฟ้องร้องทั้งสิ้นให้แก่ผู้ให้กู้อีกด้วย

สัญญานี้ทำขึ้นเป็นสองฉบับ มีข้อความตรงกัน คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจข้อความในสัญญานี้โดยตลอดแล้ว และเห็นว่าถูกต้องตรงตามเจตนา จึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน และยึดถือไว้ฝ่ายละฉบับ


ลงชื่อ........................................................ผู้ให้กู้
(.........................…….....................)
ลงชื่อ.......................................................ผู้กู้
(..……...........................................)
ลงชื่อ........................................................พยาน
(……..............................................)
ลงชื่อ.......................................................พยาน
(……..............................................)

สัญญาจ้าง

สัญญาจ้าง

สัญญาเลขที่………………………………..

สัญญาฉบับนี้ทำขึ้น ณ ….…………………………………………………………….………
ถนน……………………….แขวง……………………….เขต………………………….กรุงเทพมหานคร
เมื่อวันที่………..เดือน ……………………..พ.ศ. ………….ระหว่างกรม……………………………..
โดย………………………………………………เป็นผู้แทนทำการตามระเบียบกรม ว่าด้วยการมอบอำนาจในการสั่งซื้อ และสั่งจ้างแก่หัวหน้าหน่วยงานต่าง ๆ ในกรม …………………… (ฉบับที่ 14)
พ.ศ. 2528 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2528 ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ว่าจ้าง” ฝ่ายหนึ่ง
กับ…………………………………………………อยู่เลขที่……………….ถนน………………………
ตำบล/แขวง……………………อำเภอ/เขต………………………………จังหวัด………………………
ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้รับจ้าง” อีกฝ่ายหนึ่ง โดยมีข้อตกลงกันต่อไปนี้
ข้อ 1. ผู้ว่าจ้างตกลงจ้างผู้รับจ้างให้ทำการ……………………………………………………….
ที่ตำบล/แขวง………………………..อำเภอ/เขต………………………..จังหวัด………………………..
ให้ถูกต้องตามแบบแปลนและรายละเอียดที่แนบท้ายสัญญาทุกประการเป็นราคารวมทั้งสิ้น……………..
………………..บาท (…………………………………บาทถ้วน)
ข้อ 2. ผู้รับจ้างตกลงรับทำการตามที่กำหนดในสัญญาข้อ 1. โดยสัญญาว่าจะจัดหาสิ่งของชนิดที่ดี ใช้เครื่องมือดี และช่างฝีมือดี เพื่อประกอบการตามสัญญานี้จนแล้วเสร็จ
ข้อ 3. ในการปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าว หากผู้จ้างจะต้องสั่งหรือนำสิ่งของเข้ามาเพื่อปฏิบัติตามสัญญาจากต่างประเทศ และสิ่งของนั้นต้องนำเข้ามาโดยทางเรือในเส้นทางเดินเรือที่มีเรือไทยเดินอยู่ และสามารถให้บริการรับขนได้ให้ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประกาศกำหนด ผู้รับจ้างจะต้องจัดการให้สิ่งของดังกล่าวบรรทุกโดยเรือไทย หรือเรือที่มีสิทธิเช่นเดียวกับเรือไทย จากต่างประเทศมายังประเทศไทย เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชย์นาวี ก่อนบรรทุกของนั้นลงเรือที่มิใช่เรือไทย หรือเป็นของที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประกาศยกเว้นให้บรรทุกโดยเรืออื่นได้ ทั้งนี้ไม่ว่าการสั่งหรือซื้อสิ่งของดังกล่าวจากต่างประเทศจะเป็นแบบ เอฟ.โอ.บี. ซี.แอนด์เอฟ. ซี.ไอ.เอฟ. หรือแบบอื่นใด
ข้อ 4. ในการส่งมอบงานตามสัญญาให้แก่ผู้ว่าจ้าง ถ้าเป็นสิ่งของตามสัญญาข้อ 3. ผู้รับจ้างจะต้องส่องมอบใบตราส่ง (BILL OF LADING) หรือสำเนาในตราส่งสำหรับของนั้น ซึ่งแสดงว่าได้บรรทุกมาโดยเรือไทยหรือเรือที่มีสิทธิเช่นเดียวกับเรือไทย ให้แก่ผู้ว่าจ้างพร้อมกับการส่งมอบงานด้วย
ในกรณีที่สิ่งของดังกล่าวไม่ได้บรรทุกจากต่างประเทศมายังประเทศไทยโดยเรือไทย หรือเรือที่มีสิทธิเช่นเดียวกับเรือไทย ผู้รับจ้างต้องส่งมอบหลักฐานซึ่งแสดงว่าได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชย์นาวี ให้บรรทุกโดยเรืออื่นได้ หรือหลักฐานซึ่งแสดงว่าได้ชำระค่าธรรมเนียมพิเศษ เนื่องจากการไม่บรรทุกของโดยเรือไทยตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการพาณิชย์นาวีแล้วอย่างใดอย่างหนึ่งแก่ผู้ว่าจ้างด้วย
ในกรณีที่ผู้จ้างไม่ส่งมอบหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวในสองวรรคข้างต้นให้แก่ผู้ว่าจ้างแต่จะขอส่งมอบงานให้แก่ผู้ว่าจ้างก่อน โดยยังไม่รับชำระเงินค่าจ้าง ผู้ว่าจ้างมีสิทธิรับมอบงานดังกล่าวไว้ก่อนและชำระเงินค่าจ้างเมื่อผู้จ้างได้ปฏิบัติถูกต้องครบถ้วนดังกล่าวแล้วได้
ข้อ 5. ในวันทำสัญญานี้ ผู้รับจ้างได้นำหลักทรัพย์เป็น……………………..เป็นจำนวนร้อยละ 10 (สิบ) ของราคาค่าจ้างเหมาตามสัญญานี้ เป็นเงินทั้งสิ้น……………………… (………………………
……………………….) มามอบไว้แก่ผู้ว่าจ้างเพื่อเป็นประกันการปฏิบัติตามสัญญา หลักประกันดังกล่าวมีอายุประกันหลังจากวันกิจการแล้วเสร็จภายในกำหนดความรับผิดชอบตามสัญญาถ้าวันแล้วเสร็จตามสัญญาต้องยึดออกไปด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม ผู้รับจ้างต้องนำหลักประกันมามอบให้แก่ผู้ว่าจ้างให้มีอายุการประกันให้ครบความรับผิดชอบตามสัญญาเสมอไป
หลักประกันที่ผู้รับจ้างนำมามอบไว้ตามวรรคหนึ่ง ผู้ว่าจ้างจะคืนให้เมื่อผู้รับจ้างพ้นจากข้อผูกพันตามสัญญาข้อ 8 วรรคหนึ่งแล้ว
ข้อ 6. ผู้ว่าจ้างตกลงจ่ายค่าจ้างและผู้รับจ้างตกลงรับจ้าง เมื่อผู้ว่าจ้างได้รับมอบงานตามสัญญานี้ไว้โดยครบถ้วนและผู้รับจ้างได้ปฏิบัติงานตามสัญญาข้อ 5 เรียบร้อยแล้ว
เมื่อผู้ว่าจ้างหรือเจ้าหน้าที่ของผู้ว่าจ้างตรวจรับงานที่ส่งมอบถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาแล้วผู้ว่าจ้างหรือเจ้าหน้าที่ของผู้ว่าจ้างจะออกใบตรวจรับงานจ้างให้ผู้รับจ้างไว้เป็นหลักฐาน
ข้อ 7. ผู้รับจ้างสัญญาว่า จะเริ่มลงมือทำงานจ้าง ณ สถานที่ที่กำหนดภายในวันที่…………… เดือน…………….พ.ศ. ………………และให้แล้วเสร็จบริบูรณ์ ภายในวันที่………………………….เดือน……………..พ.ศ. ……………..ถ้าผู้รับจ้างมิได้ลงมือทำงานภายในกำหนดดังกล่าวก็ดี หรือมีเหตุให้ผู้ว่าจ้างเชื่อได้ว่า ผู้รับจ้างไม่สามารถทำงานให้แล้วเสร็จบริบูรณ์ภายในกำหนดเวลาก็ดี ล่วงกำหนดเวลาแล้วเสร็จบริบูรณ์ไปแล้วก็คือหรือผู้รับจ้างทำผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใดก็ดี ผู้ว่าจ้างมีสิทธิจะบอกเลิกสัญญา และมีอำนาจจ้างผู้อื่นทำงานจ้างนี้ต่อจากผู้รับจ้างได้ด้วย
การที่ผู้ว่าจ้างไม่บอกเลิกสัญญาตามความในวรรคหนึ่ง ไม่เป็นเหตุให้ผู้รับจ้างพ้นจากความรับผิดชอบตามสัญญานี้
ข้อ 8. เมื่องานแล้วเสร็จเรียบร้อยและผู้ว่าจ้างได้รับมอบงานจากผู้รับจ้างหรือจากผู้รับจ้างคนใหม่ในกรณีผู้รับจ้างผิดสัญญาและผู้รับจ้างใช้สิทธิเลิกสัญญาตามข้อ 5. ถ้ามีเหตุชำรุดเสียหายเกิดขึ้นแก่งานจ้างนี้ภายใน 1 ปี (หนึ่งปี) นับแต่วันที่ได้รับมอบงานโดยให้นับวันที่ได้เริ่มมอบงานเป็นวันเริ่มต้น ซึ่งเหตุเสียหายนั้นเกิดจากความบกพร่องของผู้รับจ้าง จะเป็นโดยทำไว้ไม่เรียบร้อยหรือใช้สิ่งของที่ไม่ดีหรือทำไม่ถูกต้องตามหลักวิชาก็ตาม ผู้รับจ้างต้องรีบทำการแก้ไขให้เป็นที่เรียบร้อยภายในระยะเวลาที่ผู้ว่าจ้างจะกำหนด โดยไม่คิดเอาค่าสิ่งของแรงงานหรือค่าใช้จ่ายอื่นใดจากผู้ว่าจ้างอีก ถ้าผู้รับจ้างบิดพริ้วไม่แก้ไขซ่อมแซมภายในกำหนด 7 วัน (เจ็ดวัน) นับแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากผู้ว่าจ้างโดยให้นับวันที่ได้รับแจ้งเป็นวันเริ่มต้นหรือแก้ไขซ่อมแซมไม่แล้วเสร็จเรียบร้อยน้อยภายในเวลาที่ผู้ว่าจ้างกำหนด ผู้ว่าจ้างมีสิทธิจ้างผู้อื่นให้ทำงานจ้างนั้นแทนผู้รับจ้างได้
ถ้างานที่จ้างเกิดชำรุดบกพร่องเสียภายขึ้นหลังจากระยะเวลาที่กำหนดข้างต้น ผู้รับจ้างยังต้องรับผิดตามบัญญัติไว้ในประมวลแพ่งและพาณิชย์ด้วย
ในกรณีที่ผู้ว่าจ้างใช้สิทธิจ้างผู้อื่นทำงานจ้างแทนผู้รับจ้างตามสัญญาข้อ 7 และข้อ 8 วรรคหนึ่ง ผู้รับจ้างจ่ายเงินค่าจ้าง ค่าสิ่งของ ค่าคุมงาน และค่าใช้จ่ายอื่นใด (ถ้ามี) ตามจำนวนที่ผู้ว่าจ้างต้องเสียไปโดยสิ้นเชิง และผู้รับจ้างยังคงต้องรับผิดชอบตามสัญญาข้อ 15. เสมือนหนึ่งงานที่ทำนั้นเป็นงานจ้างของตน
ข้อ 9. เนื่องจากพันธะซึ่งจะมีต่อกันตามสัญญานี้ ผู้รับจ้างยินยอมให้บรรดางานที่ผู้รับจ้างได้ทำขึ้นรวมทั้งโรงงาน สิ่งปลูกสร้างและสิ่งของต่าง ๆ ที่ได้นำมาไว้ ณ สถานที่ทำงานจ้าง โดยเฉพาะเพื่องานดังกล่าวในสัญญาข้อ 1 ให้กรรมสิทธิ์ตกเป็นของผู้ว่าจ้างทั้งสิ้นแต่ถ้ามีอันตรายหรือความเสียหายอย่างใด ๆ เกิดขึ้นแก่สิ่งเหล่านั้น แม้จะเกิดขึ้นเพราะเหตุสุดวิสัยประการใดก็ตาม ผู้รับจ้างจะต้องเป็นผู้รับผิดในความเสียหายเหล่านั้น และจัดหามาใหม่หรือแก้ไขให้คืนดี ทั้งนี้ภายในพันธะที่มีอยู่ในสัญญาอันยังไม่ถึงที่สุด เว้แต่ภายหลังเวลาส่งมอบ ซึ่งผู้รับจ้างจำต้องรับผิดชอบเพียงความบกพร่องและเพียงในความเสียหายที่มีขึ้นภายในระยะเวลาที่กล่าวในสัญญาข้อ 8
ในกรณีที่ผู้รับจ้างทำงานแล้วเสร็จบริบูรณ์ตามสัญญา ถ้ามีสิ่งของเหลืออยู่เท่าใดผู้ว่าจ้างยอมให้ผู้รับจ้างนำเอากลับคืนไปได้
ข้อ 10. สัญญานี้มีรูปแบบ รายการละเอียดและเอกสารแนบท้ายสัญญาดังต่อไปนี้
10.1 รายละเอียดของทางราชการกำหนดไว้เลขที่………จำนวน……………แผ่น
10.2 รายละเอียดหนังสือเสนอราคาที่ผู้รับจ้างเสนอไว้ จำนวน ………………แผ่น
10.3 …………………ฯลฯ…………………………………………………
และให้ถือว่ารูปแบบ รายการละเอียดและเอกสารแนบท้ายสัญญาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา
ข้อ 11. ผู้รับจ้างสัญญาว่า จะไม่ทำงานจ้างนี้โดยไม่มี แบบ รูป และรายละเอียดที่ถูกต้องเป็นอันขาด ทั้งจะรักษาแบบ รูป และรายละเอียดนี้ไว้ ณ สถานที่ทำงานจ้างให้เรียบร้อยและโดยเปิดเผยเพื่อให้ผู้ว่าจ้าง หรือกรรมการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมงานตรวจได้ทุกเวลา
ข้อ 12. ผู้รับจ้างสัญญาว่าจะไม่เอางานทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งสัญญานี้ไปให้ผู้อื่นรับจ้างช่วงอีกทอดหนึ่ง โดยมิได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ว่าจ้าง แต่ทั้งนี้ผู้รับจ้างยังต้องรับผิดชอบงานที่ให้ช่วงไปนั้นทุกประการ
ข้อ 13. ผู้รับจ้างจะต้องควบคุมงานที่รับจ้างนี้อยู่ตลอดเวลาที่งานยังไม่แล้วเสร็จหรือจะมอบหมายให้ผู้อื่นเป็นผู้ควบคุมงานแทนตนก็ได้ ในกรณีเช่นว่านี้ ให้ผู้รับจ้างแจ้งชื่อผู้ได้รับมอบหมายให้ผู้ว่าจ้างทราบเป็นหนังสือ และผู้ควบคุมงานแทนผู้รับจ้างจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบแทนผู้รับจ้าง คำสั่ง ต่าง ๆ ซึ่งได้แจ้งแก่ผู้แทนของผู้รับจ้างถือได้ว่าได้แจ้งแก่ผู้รับจ้างแล้ว
ข้อ 14. ในกรณีที่ผู้รับจ้างตั้งตัวแทนไปควบคุมงานตามข้อ 13. ถ้าผู้ว่าจ้างขอให้เปลี่ยนตัวแทนใหม่ ผู้รับจ้างยินยอมเปลี่ยนตัวได้ทันที โดยจะไม่เรียกค่าเสียหาย หรือถือเป็นเหตุยึดวันทำการออกไป ถ้าผู้รับจ้างจะเปลี่ยนผู้ควบคุมงาน ต้องแจ้งชื่อผู้นั้นให้ผู้ว่าจ้างทราบเป็นหนังสือทุกครั้งด้วย
ข้อ 15. ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุ หรือภยันตราย ความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการงานของผู้รับจ้างเอง และต้องรับผิดชอบในเหตุเสียหายอันเกิดแก่ทรัพย์สินของผู้ว่าจ้างซึ่งมีอยู่ในบริเวณที่ทำการจ้างนี้ โดยการกระทำของคนงาน ช่าง หรือบริวารของผู้รับจ้างด้วย
ข้อ 16. ผู้รับจ้างจะต้องจ่ายเงินค่าจ้างแก่ลูกจ้างของตนตามอัตราค่าจ้างและกำหนดเวลาที่ผู้รับ
จ้างและลูกจ้างได้ตกลงหรือสัญญากันไว้
ถ้าผู้รับจ้างไม่จ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างตามวรรคหนึ่ง ผู้รับจ้างยอมให้ผู้ว่าจ้างเอาเงินค่าจ้างที่ผู้ว่าจ้างจะต้องจ่ายให้แก่ผู้รับจ้าง จ่ายให้แก่ลูกจ้างของผู้รับจ้างได้ และให้ถือว่าเงินจำนวนที่จ่ายไปนี้เป็นเงินค่าจ้างที่ผู้รับจ้างได้รับไปจากผู้ว่าจ้างแล้ว
การที่ผู้รับจ้างไม่จ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของตนตามวรรคสอง นอกจากยอมให้ผู้ว่าจ้างจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของผู้รับจ้างแล้ว ยังให้ถือว่าผู้รับจ้างผิดสัญญานี้ด้วย และผู้ว่าจ้างจะยกเลิกสัญญาเสียทั้งหมดก็ได้
ข้อ 17. ถ้าผู้ว่าจ้างแต่งตั้งกรรมการตรวจการจ้างหรือควบคุมงานไว้ประจำ ณ ที่ทำการจ้างหนี้ในเวลาที่ผู้รับจ้างเตรียมการหรือกำลังทำงานจ้างนี้อยู่ก็ดี กรรมการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมงานมีสิทธิจะเข้าไปตรวจการงานทุกเวลา ผู้รับจ้างหรือผู้แทนของผู้รับจ้างจักต้องให้ความสะดวกและช่วยเหลือตามสมควร
การที่คณะกรรมการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมงานแทนคณะกรมการตรวจการจ้างหาทำให้ผู้รับจ้างพ้นความรับผิดชอบตามสัญญาข้อหนึ่งข้อใดไม่
ข้อ 18. ก่อนหรือระหว่างทำงานจ้างอยู่ ถ้าปรากฏว่าแบบรูปหรือรายละเอียดต่อท้ายสัญญานี้คลาดเคลื่อนผิดไปอย่างหนึ่งอย่างใด ผู้รับจ้างสัญญาว่าจะปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมงานแทนคณะกรรมการตรวจการจ้าง และถ้าคำวินิจฉัยนี้ถูกต้องกับรายงานอันใดอันหนึ่งที่ปรากฏในแบบรูปแล้ว ผู้รับจ้างต้องถือว่าเป็นอันเด็ดขาด ถ้าอันหนึ่งอันใดมิได้ระบุไว้ในรายการละเอียด แต่เป็นการจำเป็นจะต้องทำงานเพื่อให้เสร็จบริบูรณ์ถูกต้องตามแบบรูป ผู้รับจ้างสัญญาว่าจะจัดการ ๆ ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม ทั้งนี้ รายการที่คลาดเลื่อนหรือมิได้ระบุไว้ดังกล่าวจะต้องมิใช่ส่วนที่เป็นสาระสำคัญ
ข้อ 19. กรณีที่ผู้ว่าจ้างแต่งตั้งกรรมการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมงานแทนคณะกรรมการตรวจการจ้าง ผู้รับจ้างยอมให้กรรมการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมมีอำนาจตรวจและควบคุมให้เป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญาแบบรูปและรายการละเอียด โดยให้อำนาจสั่งเปลี่ยนแปลง แก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดทอนกิจการจ้างนี้ได้ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญา แบบรูปแบบและรายการละเอียดเติม หรือตัดทอนกิจการจ้างนี้ได้ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญา แบบรูปแบบและรายการละเอียดและถ้าผู้รับจ้างขัดขืนก็ให้คณะกรรมการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมงานแทนคณะกรรมการตรวจการจ้างมีอำนาจสั่งหยุดกิจการนั้นไว้ชั่วคราวได้ และความล่าช้าในกรณีเช่นนี้ผู้รับจ้างจะถือเป็นเหตุขอยืดวันทำการออกไปมิได้
ข้อ 20. ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะทำการแก้ไขหรือเพิ่มเติมหรือลดงานจากแบบรูปและรายการละเอียดตามสัญญาได้ทุกอย่างโดยไม่ต้องเลิกสัญญานี้ การเพิ่มเติมหรือลดงานจะต้องคิดและตกลงราคากันใหม่ และถ้าต้องการเพิ่มหรือลดเงินหรือยืดเวลาออกไปอีกก็จะได้ตกลง ณ บัดนั้น
ข้อ 21. ภายในกำหนดเวลาตามสัญญานี้ ถ้ามีเหตุดังต่อไปนี้เกิดขึ้น
(1) เหตุเกิดจากความผิดหรือความบกพร่องของฝ่ายผู้ว่าจ้าง
(2) เหตุสุดวิจัย
(3) เหตุเกิดจากพฤติการณ์อันหนึ่งอันใดที่ผู้รับจ้างไม่ต้องรับผิดตามกฎหมาย
ผู้รับจ้างต้องแจ้งเหตุดังกล่าวให้ผู้ว่าจ้างทราบเป็นหนังสือภายใน 15 วัน (สิบห้าวัน) นับแต่เหตุนั้นได้สิ้นสุดลง หากมิได้แจ้งภายในเวลาที่กำหนดผู้รับจ้างจกมากกล่าวอ้างเพื่อขอขยายอายุสัญญาในภายหลังมิได้ หากผู้ว่าจ้างเห็นว่ามีเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ผู้ว่าจ้างจะขายอายุสัญญาให้เท่ากับเวลาที่เหตุการณ์นั้นเป็นอุปสรรคต่อการส่งมอบงานโดยผู้รับจ้างต้องมีคำขอขยายอายุสัญญาเป็นหนังสือพร้อมด้วยเหตุผลและเอกสารสนับสนุนว่า ได้มีความล่าช้าเกินขึ้นเพราะเหตุดังกล่าว
ข้อ 22. ถ้าผู้รับจ้างส่งมอบงานล่าช้ากว่าวันแล้วเสร็จตามสัญญา แต่ผู้ว่าจ้างยังมิได้บอกเลิกสัญญา ผู้รับจ้างยอมให้ผู้ว่าจ้างดำเนินการดังต่อไปนี้ คือ
1. ปรับผู้รับจ้างเป็นรายวัน วันละ ……………บาท (……………………………….)
นับแต่วันที่ล่วงเลยกำหนดวันแล้วเสร็จตามสัญญาจนถึงวันที่งานแล้วเสร็จบริบูรณ์
2. เรียกค่าเสียหายอันเกิดขึ้นจากการที่ผู้รับจ้างทำงานล่าช้า (ถ้ามี)
3. เรียกค่าใช้จ่ายในการควบคุมงาน ในเมื่อผู้ว่าจ้างต้องจ้างผู้ควบคุมงานั้นอีกต่อหนึ่ง
นับแต่วันที่ล่วงเลยกำหนดวันแล้วเสร็จตามสัญญา จนถึงวันที่ผู้รับจ้างส่งมองานโดยคิดเป็นรายวัน วันละ …………………….บาท (……………………………….)
ในระหว่างที่มีการปรับนั้น ถ้าผู้ว่าจ้างเห็นว่าผู้รับจ้างไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ผู้ว่าจ้างมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและใช้สิทธิตามสัญญาข้อ 23 นอกเหนือจากการปรับจนถึงวันบอกเลิกสัญญาด้วย
ข้อ 23. ถ้าผู้ว่าจ้างบอกเลิกสัญญาแล้ว ผู้รับจ้างยอมให้ผู้ว่าจ้างดำเนินการดังต่อไปนี้
1. ริบหลักประกันสัญญาดังกล่าวในสัญญาข้อ 5
2. ยินยอมให้ผู้ว่าจ้างเรียกเอาค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นเพราะจ้างบุคคลอื่นทำการนี้ต่อไปจนงานแล้วเสร็จบริบูรณ์
3. เรียกเอาค่าใช้จ่ายในการควบคุมงาน ในเมื่อผู้ว่าจ้างต้องจ้างผู้ควบคุมงานนั้นอีกต่อหนึ่งจนแล้วเสร็จบริบูรณ์
4. เรียกค่าเสียหายอันพึงมีจากผู้รับจ้าง
ข้อ 24. เมื่อผู้ว่าจ้างบอกเลิกสัญญาแล้ว บรรดางานที่ผู้รับจ้างได้ทำขึ้นและสิ่งของต่าง ๆ ที่ได้นำมาไว้ ณ สถานที่ทำงานจ้างนั้น โดยเฉพาะเพื่องานจ้างดังกล่าวผู้รับจ้างยอมให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ว่าจ้าง โดยผู้รับจ้างจะเรียกค่าตอบแทนและค่าเสียหายใด ๆ ไม่ได้เลยและผู้รับจ้างยอมให้ผู้ว่าจ้างมีสิทธิระงับการจ้างที่ค้างชำระสำหรับงานที่ทำไปแล้วเพื่อเป็นการชำระหนี้
ในกรณีที่ต้องจ้างบุคคลอื่นทำงานที่ค้างอยู่ให้แล้วเสร็จบริบูรณ์ หากปรากฏว่าเงินค่างานที่เหลือจ่ายไม่พอสำหรับการทำงานรายนี้เป็นจำนวนเท่าใด ผู้รับจ้างยอมให้ผู้ว่าจ้างหักเงินจำนวนนั้นจากค่าจ้างที่ค้างชำระตามวรรคหนึ่งและยอมรับผิดชดใช้เงินจำนวนที่ยังขาดอยู่นั้นจนครบถ้วน
หากมีเงินค่าจ้างตามสัญญาที่หักไว้จ่ายเป็นค่าปรับและค่าเสียหายแล้ว ยังเหนืออยู่อีกเท่าใดผู้ว่าจ้างจะคืนเงินให้แก่ผู้รับจ้างหมด
ข้อ 25. ถ้าผู้รับจ้างหรือบริวารของผู้รับจ้างได้ก่อสร้างโรงงานหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ลงในบริเวณที่รับจ้างก็ดี หรือทำให้เป็นหลุมเป็นบ่อก็ดี ผู้รับจ้างสัญญาว่าจะจัดการรักษาความสะอาดตลอดเวลาที่ทำงานจ้าง และเมื่องานจ้างแล้วเสร็จจะต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและกลบเกลื่อนพื้นดินให้เรียบร้อย และขนเศษอิฐ เศษไม้ และสิ่งที่รกรุงรังออกไปให้พ้นบริเวณที่รับจ้างพร้อมทั้งทำความสะอาดบริเวณที่รับจ้างและสิ่งปลูกสร้างให้เรียบร้อยอยู่ในสภาพที่ผู้ว่าจ้างใช้การได้ทันที
สัญญานี้ได้ทำขึ้นสองฉบับ มีข้อความเป็นอย่างเดียว คู่สัญญาได้อ่านเข้าใจข้อความโดยละเอียดตลอดแล้วจึงได้ลงลายมือชื่อพร้อมทั้งประทับตรา (ถ้ามี) ไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยานและเก็บไว้ฝ่ายละฉบับ

ลงชื่อ………………………………….ผู้ว่าจ้าง
(………………………………….)
ลงชื่อ………………………………….สถาปนิก
(………………………………….)
ลงชื่อ………………………………….พยาน
(………………………………….)
ลงชื่อ………………………………….พยาน
(………………………………….)

สัญญาจ้างขนส่ง

สัญญาจ้างขนส่ง

สัญญาฉบับนี้ทำที่……………………………………………………………………วันที่.....................เดือน......................พ.ศ. ............ ระหว่าง

ก นาย/นาง/นางสาว.................................................................................................. อายุ............ปี/ห้างหุ้นส่วนจำกัด............................................................................. โดยผู้มีอำนาจลงนามท้ายสัญญา/บริษัท............................................................................................................จำกัด โดยผู้มีอำนาจลงนามท้ายสัญญา อยู่บ้านเลขที่/สำนักงานเลขที่......................หมู่ที่............ตรอก/ซอย........................ถนน............................................แขวง/ตำบล.......................................เขต/อำเภอ.......................................จังหวัด...............................ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “ผู้ว่าจ้าง” ฝ่ายหนึ่ง กับ

ข. นาย/นาง/นางสาว.................................................................................................. อายุ............ปี/ห้างหุ้นส่วนจำกัด............................................................................. โดยผู้มีอำนาจลงนามท้ายสัญญา/บริษัท.......................................................................................................จำกัด โดยผู้มีอำนาจลงนามท้ายสัญญา อยู่บ้านเลขที่/สำนักงานเลขที่......................หมู่ที่............ตรอก/ซอย..................................ถนน.................................แขวง/ตำบล.......................................เขต/อำเภอ.......................................จังหวัด...............................ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “ผู้รับจ้าง” อีกฝ่ายหนึ่ง

โดยที่ผู้ว่าจ้างเป็นผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับ....................................................................มีความประสงค์จะว่าจ้างผู้มีความรู้ความสามารถ ความชำนาญ และประสบการณ์ในด้านการขนส่งให้กับผู้ว่าจ้าง และโดยที่ผู้รับจ้างเป็นผู้ได้รับอนุญาตตามกฎหมายขนส่งทางบก มีความรู้ความสามารถ ความชำนาญ และประสบการณ์ในด้านดังกล่าวเป็นอย่างดี ประสงค์จะรับจ้างผู้ว่าจ้างเพื่อกระทำการตามความประสงค์ของผู้ว่าจ้าง ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ผู้ว่าจ้างกำหนดทุกประการ

ดังนั้น ทั้งสองฝ่ายจึงตกลงทำสัญญากัน ดังมีข้อความต่อไปนี้

ข้อ 1. วัตถุประสงค์แห่งสัญญา
ผู้ว่าจ้างตกลงว่าจ้างและผู้รับจ้างตกลงรับจ้างขนส่ง…………………………
จาก............................................ของผู้ว่าจ้าง ตั้งอยู่ที่.........................………………………...............ไปยังสถานที่ที่ผู้ว่าจ้างกำหนด และแจ้งให้ทราบเป็นคราว ๆ ซึ่งจะทำการขนส่งโดยรถยนต์ของ ผู้รับจ้าง รวมทั้งสิ้นจำนวน..................คัน เป็นรถยนต์ประเภท..................................................... ยี่ห้อ..............................เครื่องยนต์.................................. ขนาดปริมาตรกระบอกสูบ.................ซีซี



ได้แก่ หมายเลขทะเบียน....................................................................................................................ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “งานที่จ้าง”

ข้อ 2. กำหนดระยะเวลาแห่งสัญญา
ทั้งสองฝ่ายตกลงให้สัญญานี้มีกำหนดระยะเวลา........เดือน/ปี นับแต่วันที่........เดือน.............................พ.ศ. ............. ถึงวันที่........เดือน.............................พ.ศ. .............

ข้อ 3. ค่าจ้าง ค่าใช้จ่ายและการชำระ
3.1 ผู้ว่าจ้างตกลงชำระค่าจ้างให้กับผู้รับจ้างเป็นรายเดือนเป็นการเหมาในอัตราเดือนละ................บาท(...............................................) รวม/ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยชำระทุกวันที่.........ของทุกเดือน ณ ที่ทำการของผู้รับจ้าง หรือสถานที่อื่นใดตามที่ผู้ว่าจ้างกำหนด
3.2 ค่าจ้างดังกล่าวไม่รวมถึงค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าผ่านทาง และหรือค่าจอดรถยนต์ โดยผู้รับจ้างจะต้องหลักฐานการใช้จ่ายมาแสดงเพื่อเรียกเก็บจากผู้ว่าจ้างทุกวันที่....ของทุกเดือน เมื่อผู้ว่าจ้างตรวจสอบแล้วเห็นว่า ถูกต้อง ผู้ว่าจ้างจะทำการชำระพร้อมกับค่าจ้างตามกำหนดเวลาข้อ 3.1

ข้อ 4. สิทธิ และหน้าที่ของผู้ว่าจ้าง
ผู้ว่าจ้างตกลง และทราบดีว่า
5.1 จะจัดหาข้อมูลที่เพียงพอต่อการทำงานที่จ้างตามสัญญานี้
5.2 มีสิทธิเข้าตรวจตราการทำงานที่จ้างของผู้รับจ้าง ณ สถานที่ใด ๆ ที่ผู้รับจ้างใช้ในการทำงานที่จ้างได้ตลอดเวลาการทำงานปกติของผู้รับจ้าง
5.3 การทำงานที่จ้างตามสัญญานี้เป็นการว่าจ้างเฉพาะใน.............................เท่านั้น หากผู้ว่าจ้างประสงค์จะว่าจ้างผู้รับจ้างนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในสัญญานี้ ผู้ว่าจ้างจะชำระค่าจ้างให้แก่ผู้รับจ้างเพิ่มเติมในอัตราวันละ.................บาท (....................บาทถ้วน) ต่อคัน
5.4 จะจัดให้พนักงานของผู้ว่าจ้างขนของลงจากรถยนต์ แต่ผู้รับจ้างยังคงต้องเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายจนกว่าของที่ขนจะได้ถูกขนย้ายเข้ามาในสถานที่ที่ผู้ว่าจ้างกำหนด และผู้ว่าจ้างได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า ของที่ขนนั้นไม่ได้สูญหาย หรือบุญสลาย

ข้อ 6. สิทธิ และหน้าที่ของผู้รับจ้าง
ผู้รับจ้างสัญญา และทราบดีว่า
6.1 จะใช้ความชำนาญ ความระมัดระวัง และความขยันหมั่นเพียรในการทำงานที่จ้างตามสัญญานี้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบของงานที่จ้างตามสัญญานี้ให้สำเร็จลุล่วงได้มาตรฐานถูกต้องตามหลักวิชาชีพ
6.2 จะจัดหารถยนต์ และพนักงานขับรถยนต์เพื่อทำงานที่จ้างให้แก่ผู้ว่าจ้าง ณ คลังเอกสารของผู้ว่าจ้างตามข้อ 1. ตั้งแต่วัน............ถึงวัน.................. เวลา ……….. – ………น. ยกเว้น............................. และวันหยุดตามที่ผู้ว่าจ้างกำหนด และแจ้งให้ผู้รับจ้างทราบเป็นคราว ๆ ด้วยค่าใช้จ่ายของผู้รับจ้างเองทั้งสิ้น
ทั้งนี้ หากผู้ว่าจ้างประสงค์จะใช้รถยนต์นอกเหนือจากเวลาตามที่กำหนดไว้ในวรรคแรก ผู้รับจ้างจะต้องจัดหารถยนต์ตามความประสงค์ของผู้ว่าจ้างหลังจากที่ได้รับแจ้งจากผู้ว่าจ้าง โดยผู้ว่าจ้างจะชำระค่าจ้างเพิ่มเติมให้แก่ผู้รับจ้างในอัตราชั่วโมง/วันละ.................บาท ( ..............................)
6.3 จะตกแต่งรถยนต์ รวมทั้งจัดหาสิ่งอำนายความสะดวกในรถยนต์สำหรับการทำงานที่จ้างให้แก่ผู้ว่าจ้างให้ถูกต้องครบถ้วนตรงตามที่กำหนดไว้ในสัญญานี้
6.4 จะยินยอมให้ผู้ว่าจ้างติดฟิล์ม สติ๊กเกอร์ และหรือประกาศโฆษณาประชาสัมพันธ์อื่นใดบนได้
6.5 ผู้รับจ้างได้จัดทำประกันภัยรถยนต์ และจัดทำประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพร้อมทั้งส่งมอบสำเนากรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวให้ผู้ว่าจ้างยึดถือไว้ในวันทำสัญญานี้ และผู้รับจ้างจะรับผิดชอบค่าเบี้ยประกันเองทั้งสิ้น และหากมีการเพิ่มอัตราเบี้ยประกัน ผู้รับจ้างตกลงชำระเบี้ยประกันที่เพิ่มขึ้นแต่เพียงผู้เดียว
6.6 จะจัดหารถยนต์พร้อมพนักงานขับรถยนต์สำรองไว้ให้แก่ผู้ว่าจ้างนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ 1. เป็นรถยนต์ยี่ห้อ................ รุ่น...................... เครื่องยนต์............. ขนาดปริมาตรกระบอกสูบ...............ซีซี จำนวน............คัน ได้แก่ หมายเลขทะเบียน......................โดยจะนำมาจอดไว้ ณ ....................................ของผู้ว่าจ้างตามข้อ 1. เพื่อให้ผู้ว่าจ้างสามารถนำไปใช้ในการทำงานที่จ้างได้ทันที
6.7 พนักงานขับรถตามที่ผู้รับจ้างจัดหาให้แก่ผู้ว่าจ้างตามข้อ 6.2 นั้น เป็นผู้มีใบอนุญาตขับรถ และเป็นผู้มีความประพฤติสุภาพเรียบร้อย กิริยามารยาทดี แต่งกายเรียบร้อยตามเครื่องแบบของผู้รับจ้าง ไม่เป็นโรคที่สังคมรังเกียจ รวมทั้งจะไม่ดื่มสุรา และหรือสิ่งเสพติดอื่นใดก่อน และหรือในขณะปฏิบัติหน้าที่โดยเด็ดขาด
ทั้งนี้ ในวันทำสัญญานี้ ผู้รับจ้างจะต้องจัดรายชื่อ สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาใบอนุญาตขับรถของพนักงานขับรถตามวรรคแรกให้แก่ผู้ว่าจ้างยึดถือไว้ด้วย
6.8 จะจัดให้พนักงานขับรถยนต์ทุกคนมีโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อกับผู้ว่าจ้าง ด้วยค่าใช้จ่ายของผู้รับจ้างเองทั้งสิ้น
6.8 จะจัดหารถยนต์ใหม่ให้แก่ผู้ว่าจ้างภายใน........ชั่วโมง/วัน นับแต่ที่ได้รับแจ้งจากผู้ว่าจ้าง หากผู้ว่าจ้างเห็นว่า รถยนต์นั้นไม่ปลอดภัยต่อการใช้ทำงานที่จ้าง และหรือมีสภาพไม่ถูกต้องเรียบร้อยตรงตามข้อ 6.2 รวมทั้งจะจัดหาพนักงานขับรถใหม่ให้แก่ผู้ว่าจ้างภายใน........ชั่วโมง/วัน นับแต่ที่ได้รับแจ้งจากผู้ว่าจ้าง หากผู้ว่าจ้างเห็นว่า พนักงานขับรถนั้นไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือระเบียบของผู้ว่าจ้าง
6.9 ผู้รับจ้าง และหรือพนักงานขับรถยนต์ของผู้รับจ้างทุกคนจะต้องปฏิบัติตามประกาศ กฎ ระเบียบและหรือคำสั่งของการใช้สถานที่ของผู้ว่าจ้างที่มีอยู่ในวันทำสัญญานี้ และที่จะมีขึ้นในอนาคตโดยเคร่งครัด และถือว่า ประกาศ กฎ ระเบียบและหรือคำสั่งดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้ด้วย
6.10 บรรดาข้อมูล หรือเอกสารของผู้ว่าจ้าง เพื่อใช้ในการทำงานที่จ้างตามสัญญานี้ถือเป็นความลับทางการค้าของผู้ว่าจ้าง โดยผู้รับจ้างจะใช้ข้อมูล หรือเอกสารดังกล่าวเพื่อใช้ในการทำงานที่จ้างตามสัญญานี้เท่านั้น และจะส่งมอบบรรดาข้อมูล และเอกสารทั้งหมดที่ได้รับไปเพื่อการทำงานที่จ้างตามสัญญานี้คืนให้แก่ผู้ว่าจ้างทันทีที่สัญญานี้สิ้นสุดลง (ถ้ามี)
6.13 หากพนักงานขับรถของผู้รับจ้างกระทำการใดอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อของที่ขน และทรัพย์สิน รวมทั้งบุคคลอื่นใด โดยไม่ใช่ความผิดของผู้ว่าจ้าง ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายดังกล่าวเองทั้งสิ้น

ข้อ 7. การผิดนัดผิดสัญญา
หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดนัดผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด คู่สัญญาอีกฝ่ายมีสิทธิบอกเลิกสัญญา และเรียกค่าเสียหายได้ทันที

ข้อ 8. ข้อตกลงอื่น ๆ
8.1 การผ่อนผัน ผ่อนเวลา หรือการละเว้นการใช้สิทธิใด ๆ ของผู้ว่าจ้างตามสัญญานี้ ไม่ถือว่าผู้ว่าจ้างได้สละสิทธิประโยชน์ดังกล่าวต่อผู้รับจ้างแต่อย่างใด
8.2 หากมีข้อความใดๆในเอกสารแนบท้ายสัญญา ขัดแย้งกับข้อความในสัญญานี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงให้ใช้ข้อความในสัญญานี้บังคับระหว่างกัน
8.2 การบอกกล่าวทวงถาม หรือส่งเอกสารใด ๆ อันพึงมีไปยังคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งตามภูมิลำเนาที่ปรากฏในสัญญานี้ ให้ถือว่าเป็นการส่งโดยชอบ และคู่สัญญาอีกฝ่ายได้ทราบแล้วในวันที่คำบอกกล่าวหรือเอกสารนั้น ๆ พึงไปถึงตามปกติ

สัญญานี้ทำขึ้นเป็นสองฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน ทั้งสองฝ่ายได้ทราบและเข้าใจข้อความโดยตลอดดีแล้ว เห็นว่าถูกต้องตรงตามเจตนาของตน จึงได้ลงลายมือชื่อพร้อมประทับตรา (ถ้ามี) ไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน และต่างยึดถือไว้ฝ่ายละฉบับ

ในนาม บริษัท ................................จำกัด

ลงชื่อ........................................................ ผู้รับจ้าง
( )

ในนาม บริษัท................................จำกัด

ลงชื่อ......................................................... ผู้ว่าจ้าง
( )


ลงชื่อ..........................................................พยาน
( )

ลงชื่อ..........................................................พยาน
( )

สัญญาว่าจ้างก่อสร้างอาคาร

สัญญาว่าจ้างก่อสร้างอาคาร

เขียนที่……………………………………..…………

เมื่อวันที่…………..เดือน………………………….. พ.ศ. ………….

สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง…..……………………………………..………อายุ…………….ปี
อยู่บ้านเลขที่……………….ตรอก/ซอย……………………………ถนน………………………………...
ตำบล/แขวง……………………………..….อำเภอ/เขต……………………..จังหวัด…………….………
ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ว่าจ้าง” ฝ่ายหนึ่ง
กับ………………………………………..…………………………..อยู่บ้านเลขที่……….……ตรอก/ซอย…………………………………………..ถนน………………………………………………
แขวง/ตำบล……………………………..……………เขต/อำเภอ……………………………………….จังหวัด……………………………..…..ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้รับจ้าง” อีกฝ่ายหนึ่ง
ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันดังมีข้อความต่อไปนี้
ข้อ 1. ผู้ว่าจ้างตกลงจ้าง และผู้รับจ้างตกลงรับจ้างปลูกสร้างอาคาร…………………….…ชั้น ลงในที่ดินที่ผู้ว่าจ้างเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ โฉนดหมายเลขที่ ………..เลขที่ดิน………..……หน้าสำรวจ
……………..ตำบล……………………….อำเภอ………………………....จังหวัด………………………ตามแบบแปลนและรายละเอียดของงานที่แนบทายมาและให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้
ข้อ 2. ผู้รับจ้างตกลงจะทำการก่อสร้างตามสัญญาข้อ 1. ให้เสร็จสิ้นภายในกำหนด………..วัน
นับแต่วันทำสัญญานี้ซึ่งตรงกับ วันที่………….เดือน……………………………พ.ศ. ……………….
ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัยใด ๆ ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้และเป็นเหตุให้การก่อสร้างดังกล่าวต้องหยุดชะงักลงโดยมิใช่ความผิดของฝ่ายผู้รับจ้าง ก็ให้กำหนดเวลาดังกล่าวในวรรคก่อนออกไปเท่าที่สูญเสียไปเพราะเหตุดังกล่าว
ข้อ 3. ผู้ว่าจ้างตกลงชำระค่าจ้างให้แก่ผู้รับจ้างเป็นเงินทั้งสิ้น……………………………...บาท
(……………………………………………) โดยชำระค่าจ้างให้เป็นงวด ๆ รวม ………….งวด โดย
จ่ายตามผลสำเร็จของงาน ซึ่งมีรายละเอียดการชำระค่าจ้างดังนี้
งวดที่ 1 ชำระเงินค่าจ้าง จำนวน ………………บาท (………………………………………)
เมื่อผู้รับจ้างได้ทำการก่อสร้าง …………………………………………………………………แล้วเสร็จ
งวดที่ 2 ชำระเงินค่าจ้าง จำนวน ………………บาท (………………………………………)
เมื่อผู้รับจ้างได้ทำการก่อสร้าง …………………………………………………………………แล้วเสร็จ


งวดที่ 3 ชำระเงินค่าจ้าง จำนวน ………………บาท (………………………………………)
เมื่อผู้รับจ้างได้ทำการก่อสร้าง …………………………………………………………………แล้วเสร็จ
งวดที่ 4 ชำระเงินค่าจ้าง จำนวน ………………บาท (………………………………………)
เมื่อผู้รับจ้างได้ทำการก่อสร้าง …………………………………………………………………แล้วเสร็จ
หากผู้ว่าจ้างผิดสัญญาไม่ชำระเงินค่าจ้างแก่ผู้รับจ้างตามสัญญาข้อนี้ ไม่ว่างวดใดก็ตามผู้รับจ้างมีสิทธิบอกเลิกสัญญานี้ได้ทันที และให้ถือว่ากรรมสิทธิ์ของอาคารเป็นของผู้รับจ้างโดยไม่จำต้องคืนเงิน ค่าจ้างที่ได้รับไว้แล้ว หากเกิดความเสียหายใด ๆ เนื่องจากการไม่ชำระค่าจ้างตามสัญญาข้อนี้ ผู้ว่าจ้างเป็นผู้รับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายนั้นแก่ผู้รับจ้างด้วย
ข้อ 4. วัสดุเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างรวมทั้งสัมภาระต่าง ๆ ที่จำเป็นให้…………..
…………เป็นผู้จัดหา ซึ่งจะต้องใช้วัสดุอุปกรณ์ตามขนาด และคุณภาพดังที่แจ้งไว้ในรายละเอียดแนบท้ายสัญญานี้
ข้อ 5. หากผู้ว่าจ้างประสงค์จะทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงก่อสร้าง ผู้ว่าจ้างจะต้องแจ้งให้ผู้รับจ้างทราบเป็นลายลักษณ์อักษร โดยผู้ว่าจ้างจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง แต่ผู้รับจ้างมีสิทธิที่จะยอมรับหรือไม่ยอมรับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนั้น ๆ โดยคำนึงถึงความจำเป็นและผลเสียที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากการแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
ข้อ 6. ผู้รับจ้างยินยอมให้ผู้ว่าจ้างหรือตัวแทนเข้าตรวจตราอาคารที่ก่อสร้างเป็นครั้งคราวตามโอกาสที่สมควรแต่ผู้ว่าจ้างต้องไม่ขัดขวางหรือรบกวนการก่อสร้าง
ข้อ 7. หากผู้ว่าจ้างเห็นว่า งานที่ทำไม่อาจเสร็จสิ้นตามที่กำหนดไว้ในข้อสัญญาข้อ 2. ผู้รับจ้างจะเอางานส่วนใดส่วนหนึ่งแห่งสัญญาไปให้ผู้อื่นรับจ้างช่วงอีกทอดหนึ่งได้ ต่อเมื่อได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ว่าจ้างก่อน
ข้อ 8. ผู้ว่าจ้างจะต้องตรวจรับมอบงานภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ผู้รับจ้างได้มีหนังสือแจ้งไปหากผู้ว่าจ้างไม่อาจตรวจสอบมอบงานภายในกำหนดให้ถือว่า ผู้ว่าจ้างได้ตรวจรับมอบงานแล้วโดยปริยาย
ข้อ 9. ผู้รับจ้างยอมรับผิดชอบในความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากความบกพร่องในการก่อสร้างของฝ่ายผู้รับจ้างภายใน……………..วันนับแต่วันที่ผู้ว่าจ้างรับมอบงานหรือถือว่ารับมอบงาน
ข้อ 10. หากผู้รับจ้างไม่ทำการส่งมอบงานที่เสร็จสิ้นทั้งหมด โดยมิใช่ความผิดของผู้ว่าจ้างภายในกำหนดเวลาที่ระบุไว้ในข้อ 2. ผู้รับจ้างยินยอมให้ผู้ว่าจ้างเรียกร้องให้ชำระปรับวันละ ………….บาท
(……………………………………………) จนกว่าจะส่งมอบงานที่เสร็จสิ้นทั้งหมด





สัญญานี้ทำขึ้นเป็นสองฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน โดยคู่สัญญายึดถือไว้ฝ่ายละหนึ่งฉบับ คู่สัญญาได้อ่านและเข้าใจข้อความโดยตลอดแล้ว จึงลงลายมือชื่อไว้เป็นพยานหลักฐาน

ลงชื่อ……………………………………….ผู้ว่าจ้าง
(………………………………..…….)

ลงชื่อ………………………………………..ผู้เช่า
(………………………………………..)

ลงชื่อ…………………………………….….พยาน
(………………………………………)

ลงชื่อ…………………………………….….พยาน
(………………………………………)